Leverage คืออะไร
ในความหมายที่แท้จริงแล้ว Leverage อนุมานได้ว่าให้เราทำงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง
ในโลกของการเงิน แนวคิดของ Leverage ถูกใช้โดยนักลงทุนซึ่งมีนัยสำคัญเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน Leverage มักถูกมองว่าเป็นดาบสองคมในการซื้อขาย แต่ก็มีนักเทรดบางคนที่มองตรงข้าม
ผู้ที่อยู่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้รักในความจริงที่ว่าเงินจำนวนมากสามารถสร้างได้จาก “เงินจำนวนเล็กน้อย” ในขณะที่ผู้ที่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มของความโศกเศร้าย่อมตรงข้ามเสมอเพราะบัญชีถูก “ล้างพอร์ต” นี่เองแสดงให้เห็นภาพได้อย่างรวดเร็วว่า เลเวอเรจสูงคือ”ความเสี่ยง”
ในขณะที่นักเทรดมากมายได้ยินคำว่า leverage เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ทราบว่า leverage ที่แท้จริงคืออะไร leverage ทำงานอย่างไร และสามารถส่งผลต่อบัญชีของเขาอย่างไร ไม่นานมานี้ leverage เป็นคำศัพท์ที่ค่อนข้างเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด Forex ต้องขอกล่าวว่ามาเจาะลึกลงไปให้มากอีกสักนิดก่อนที่เราจะลงบทสรุปใดๆลงไป
ขณะนี้ leverage ว่าด้วย “การยืมเงินจำนวนหนึ่ง” ในโลกของ Forex เงินที่ยืมนั้นมักมาจากโบรคเกอร์ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อนักเทรดเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ จำนวนของ leverage ได้ถูกจัดไว้ดังนี้ 50:1, 100:1 หรือ 200:1 ขึ้นอยู่กับโบรคเกอร์ ณ ปัจจุบันบางรายเสนอให้มากถึง 400:1 หรือ 500:1
มาทำความเข้าใจให้ง่ายขึ้นเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานการใช้ leverage ให้มากขึ้น
เมื่อคุณเทรด 1 สแตนดาร์ทลอท ใน Forex คุณกำลังเทรดประมาณ 100,000 ยูนิตในฐานของค่าเงิน ยกตัวอย่างเช่น ราคาของ ดอลลาร์ต่อเยน คือ 100 นั่นหมายถึง 1 ดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 100 เยนในขณะนั้น
คุณประเมินราคาตลาดและทราบว่า คอลลาร์ราคาต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับเจแปนเยน นั่นหมายความว่าคุณเริ่มต้นซื้อและหวังว่าราคานั้นจะสูงขึ้น
ตอนนี้เพื่อซื้อ 1 สแตนดาร์ทลอทของ ดอลลาร์ต่อเยน ราคาเดิมอยู่ที่ 100 ซึ่งที่จริงแล้วคุณซื้อ 100,000 ยูนิตของดอลลาร์ โดยส่วนมากเราไม่มีเงินจำนวนมากขนาดนั้นในการเทรด โบรคเกอร์ยื่นมือเข้ามาในข้อเสนอที่เยี่ยมยอดที่สุดและเสนอให้ “เงินทุนเพิ่ม” เพื่อเพิ่มทุนในการเทรด
มาร์จินยอมให้นักเทรดทำการซื้อขายโดยไม่ต้องใช้มูลค่าเต็มตามการซื้อขาย ดังนั้น สำหรับพอร์ต 100,000 ดอลล่า (1 ลอท) บน 1% มาร์จิน นักเทรดจะต้องมี 1000 ดอลลาร์เพื่อการลงทุน
Leverage ให้การซื้อขายเช่นนี้เท่ากับ 100:1 (100,000/1,000) นี่คือสูตรคำนวน
ดังนั้น 1% ของมาร์จิน leverage คือ 100:1 ซึ่งนักเทรดสามารถควบคุม 100,000 ดอลลาร์ ด้วยเพียงผลรวมของ 1,000 ดอลลาร์ สำหรับ 400:1 leverage นักเทรดเพียงแค่ ลงทุนที่ 0.25% ของมาร์จิน นั่นหมายถึง สแตนดาร์ทลอทของ 100,000 ดอลลาร์ สามารถควบคุมไว้ได้เพียง 250 ดอลลาร์
ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นถึงอัตรากำไรขึ้นต้นวิ่งเหมือนกันราวกับแกะ
ถึงแม้ว่า high leverage แสดงให้เห็นภาพพจน์ว่าการเทรดมีความเสี่ยง “การรับรู้ความเสี่ยง” มีความสำคัญน้อย
เมื่อเห็นว่าราคาค่าเงินมักจะเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า 1% ในระหว่างการซื้อขายระหว่างวัน หากราคาค่าเงินผันผวนมากพอกับหุ้น โบรเกอร์คงไม่สามารถให้ leverage ได้มากขนาดนี้
เอาหล่ะรอสักครู่
ฉันคิดว่า ฉันคิดความ Forex มีการเปลี่ยนแปลงมากและผันผวนมากกว่าหุ้น
ฉันจะอธิบายให้ฟัง
ใน Forex การเคลื่อนที่ของค่าเงินมีขนาดเล็กระหว่างวัน มีคำศัพท์ใหม่เรียกว่า Pips (ปิปส์) ที่ใด้รับการแนะนำ ปิปส์ที่เล็ที่สุดเคลื่อนที่ในราคาสกุลเงิน ซึ่งอาจเป็น 2 หรือ 4 จุดทศนิยมของราคา ขึ้นอยู่กับค่าเงินที่จับคู่ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนที่เหล่านี้เป็นเพียงแค่เศษเช็นต์ ยกตัวอย่างเช่น หาค่าคูเงิน ยูโรต่อดอลลาร์ เคลื่อ 100 ปิปส์ จาก1.5100 มาที่ 1.5000 ก้เพียงแค่ 1 เซนต์ (หรือ 0.01 เซนต์) ของอัตราแลกเปลี่ยน
ลองดูตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้เพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2016 ราคายูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 1.0979 จุด วันที่ 1 ธันวาคม2016 ราคายูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 1.0586 จุด พิจารณาว่าช่วงเวลานี้คือตลาดมีความผันผวนมากเนื่องจากใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นคุณเข้าใจหรือยังว่าทำไมโบรคเกอร์สามาถให้เลเวอเรจสูง ในตลาด Forex ก็เพราะว่าการเคลื่อนที่ระหว่างวันในตลาด Forex เป็นนาที
นี่คือเหตุผลที่การซื้อขายจึงต้องทำในปริมาณที่มาก เพื่อให้การเคลื่อนไหวของราคาต่อนาทีเหล่านั้นได้รับผลกำไรที่ดีและขยายผลกำไร เมื่อมีการเพิ่ม leverage มันคือข้อกำหนดของ leverage ที่ทำให้นักเทรดได้รับกำไรสูงสุดในตลาด
อย่างไรก็ตาม leverage ก็สามารถต่อต้านนักลงทุนได้ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเงินเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่นักเทรดคาดไว้ leverageย่อมขยายการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเกิดขึ้น นักเทรดค่าเงินต่างประเทศมักใช้การเทรดที่มีรูปแบบรัดกุมโดยการใช้ “Stop Loss.”
ตอนนี้เราพอจะเข้าใจความหมายและวิธีการใช้ของ leverage แล้ว เราจะรับมืออย่างไรกับความจริงที่ว่า leverage “ฆ่า” บัญชีนักเทรด
ในความจริงแล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ leverage แต่อยู่ที่การบริหารความเสี่ยงที่ไม่แน่นพอ leverage ที่สูงเพียงแค่ช่วยลดปริมาณการลงทุนที่จำเป็นต้นใช้ในการเริ่มต้นซื้อขาย นักเทรดชั้นเยี่ยมจะทราบดีว่าเขาจะไม่ใช้ความเสี่ยงมากกว่า 3% ของเงินทุนที่มี งานของคุณคือการบริหารความเสี่ยงโดยไม่ต้องเสี่ยงมากขึ้นกว่า 3% ของเงินทุนของคุณที่ต่อ 1 ครั้งของการเทรด
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเริ่มทุนการเทรดของคุณที่ 10,000 ดอลลาร์ดังนั้น 3% ของความเสี่ยงจะไม่เสียมากกว่า 300 ดอลลาร์ของบัญชีการเทรดของคุณ ดังนั้นจริงๆมันไม่สำคัญว่าคุณเทรด 100: 1 หรือ 500: 1 มันมีผลใดๆกับ “ความเสี่ยง” ถ้าคุณใช้ leverage สูงขึ้นและคุณมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมหมายถึงการวางแผนที่จุดเริ่มต้นของคุณ กำหนดจุดกำไรและ stop loss ก่อนที่จะเริ่มเทรด ขนาดลอท ของคุณคำนวนเพื่อไม่ให้ความเสี่ยงสูงเกินกว่า 3% ของเงินทุนที่มี
จุดทีทำให้ leverage ไม่ใช่ศัตรู หากคุณวางแผนการเทรดขนาดเล็กของเงินทุนต่อการเทรด leverage ที่สูงจะไม่มีผลกระทบในเชิงลบ ในทางตรงข้าม leverage ที่ต่ำสามารถขัดขวางศักยภาพขอนักเทรดเพื่อให้ได้กำไร เพราะนักเทดไม่สามารถมีทุนเพียงพอเพื่อลงทุนเต็มที่ และ/หรือหลายบัญชีในเวลาเดียวกัน ใน 10:1 leverage นักเทรดจะต้องลงทุน 10,000 ดอลลาร์ต่อ ต่อลอท ในขณะที่ 1,000 คอลลาร์เขาสามารถใช้ 100:1 leverage.
บทสรุป leverage มีข้อดี มีเพื่อช่วยคุณ เป็นตัวช่วยที่มีความจำเป็นต่อประสบความสำเร็จทั้งหมดนักเทรดในการเพิ่มกำไรในบัญชีเสมอมา แล้วอย่างนี้เราไม่ควรทำบ้างหรือ? คำกล่าวของ Archimedes, 220BC: “หาคานงัดที่ยาวพอแล้ววางบนจุดหมุนที่เหมาะเจาะ แล้วฉันจะงัดโลกนี้ให้ดู”
Wayne Ko
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการศึกษา