ความเชื่อมั่นของตลาดกลับมาเปราะบางอีกครั้งเ เนื่องจากการระบาดของไวรัสอาจมาเยือนอีกครั้ง ควรขายสินทรัพย์เสี่ยง ณ จุดนี้ หรือไม่ ?
ตอนนี้นักลงทุนกำลังจัดการกับปัญหาอื่น: เช่นกรณี coronavirus กลับมาระบาดอย่างเดือดพล่านอีกครั้ง ตามข้อมูลจาก Johns Hopkins ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดในสหรัฐฯ อาจสูงมากกว่า 25% ของผู้ป่วยทั่วโลก ซึ่งตอนนี้มีผู้ป่วยจำนวนกว่า 10 ล้านรายทั่วโลก
ยอดผู้ติดเชื้อ Coronavirus ทั่วโลก ทะลุ 10 ล้านคนไปแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 500,000 คน ตามที่บางรัฐของสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการเพื่อที่จะระงับแผนการกลับมาเปิดเศรษฐกิจใหม่ เพื่อรับมือกับการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน สหรัฐอเมริกามียอดผู้ป่วยรายใหม่ที่บันทึกได้มากกว่า 42,000 ราย ในวันเสาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิ้นส์ ซึ่งจำนวนต่ำกว่าที่บันทึกไว้เมื่อวันศุกร์ที่ 45,255 ราย
ฟลอริด้า, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย และแอริโซนามี สัดส่วนของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่กำหนดมาตรการคุมเข้มใหม่ ในรัฐเหล่านั้นและล่าถอยสำหรับแผนในการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ความกดดันมาตกที่ผู้ว่าการรัฐ Texas นายGreg Abbott เพื่อดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อชะลอการแพร่กระจายของไวรัส ผู้พิพากษาดัลลัสเคาน์ตี้ เคลย์ เจนกิ้นส์เรียกร้องให้สั่งหน้ากากอนามัย และสั่งให้บรรดาร้านอาหารปิดตัวลงก่อน ในจดหมายถึงผู้ว่าการรัฐเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานายแอ๊บบอต ได้สั่งให้ปิดร้านประเภทบาร์ แต่อนุญาตให้ร้านอาหารเปิดให้บริการที่ 50% ของกำลังการรองรับลูกค้า
รายงานดังกล่าวกำลังแสดงให้เห็นถึงการลุกลามของการระบาดของ coronavirus ในหลายแห่ง รวมถึงแคลิฟอร์เนียแอริโซนา และเท็กซัส ซึ่งทำลายสถิติรายวันในเดือนมิถุนายน สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ตลาดหุ้นได้รับกำไรบางส่วนที่พวกเขาขายไปแล้วในเดือนนี้ แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นักลงทุนและนักวิเคราะห์เชื่อว่า หุ้นที่มีข้อกังขา doubtful stocks จะสามารถรักษาโมเมนตัมที่รุนแรงในเดือนเมษายนและพฤษภาคม
การทำงานของตลาดดูเหมือนจะปลอดภัยในตอนนี้ ต้องขอบคุณเฟด แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่าความสงบที่แท้จริงจะกลับเข้าสู่ตลาดในเร็วๆนี้ ปัญหาที่เริ่มต้นการเทขายขายของนักลงทุน – ทุกครั้งที่ข่าวการระบาดใหญ่กระทบ ยังไม่ได้หายไปไหน และไม่มีใครแน่ใจว่ามันจะเป็นเมื่อใดถึงจะจบลง แต่ตอนนี้เฟดเกือบทำในสิ่งที่ทำได้แล้ว ตลาดต้องพึ่งพาปัจจัยพื้นฐานในขณะนี้
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ มีกำหนดประกาศวันพฤหัสบดีนี้
ขณะที่ตลาดกำลังมองหารายงานการจ้างงานอื่น การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้ตลาดประหลาดใจมาก เนื่องจากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.5 ล้าน คนหลังจากที่ได้กลับมาทำงานในโรงงานและภาคผู้ให้บริการบางราย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านคน ตามความเห็นของสำนักข่าวของรอยเตอร์ส โดยมีอัตราว่างงานที่ลดลงถึง 12.2%
อัตราการว่างงานที่ยังคงสูง เป็นเครื่องเตือนใจว่ากระบวนการฟื้นคืนของเศรษฐกิจ จะมีความยืดเยื้อยาวนานอย่างไร และการใช้จ่ายมีแนวโน้มที่จะถูกจำกัดยิ่งขึ้น เมื่อการจ่ายเงินชดเชยสำหรับผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม ข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงก็จะอัพเดตออกมาด้วยเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าจะแสดงอัตราประจำปีของการผ่อนคลายลง ขณะที่ข้อมูลการเรียกร้องผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะถูกจับตามองสำหรับแนวโน้มการว่างงานรายสัปดาห์ล่าสุด
บริษัท ในกลุ่ม S&P 500 ได้ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มไม่มั่นคง
มากกว่า 40% ของ บริษัทในกลุ่ม S&P 500 ได้ดึงคำแนะนำของพวกเขากลับ เนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสทำให้บริษัทในสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น และการมีส่วนร่วมของพวกเขาลดลงมากกว่าค่าดัชนีที่กว้างขึ้น
จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน บริษัทอย่างน้อย 218 แห่ง จากภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลายได้ถอนหรือระงับคำแนะนำรายไตรมาสหรือรายปี ตามข้อมูลจาก Dow Jones Newswires หลายคนอ้างถึงความไม่แน่นอน โดยรวมจากการระบาดใหญ่สำหรับความไม่มั่นใจในสถานการณ์การลงทุน แต่บางจุดมองว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ของการระบาดเพิ่มเติม การพัฒนาพฤติกรรมผู้บริโภค และการให้รางวัลสนับสนุน เช่นความจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานแนวหน้า
ยังมีปัจจัยที่ไม่ทราบอีกเป็นจำนวนมาก ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบระยะยาวของ Covid-19 ที่อาจมีอิทธิพลต่อทางการเงินของเราในช่วงที่เหลือของปี 2020 การลงทุนและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค สำหรับการตัดสินใจของ บริษัทต่างๆ เมื่อต้นเดือนนี้
ทางเลือกของเรา
EUR/USD –เป็นขาลง
คู่นี้อาจปรับตัวลงสู่ 1.1190 ในสัปดาห์นี้
USD/JPY –เป็นขาลง
คู่นี้อาจปรับตัวลงสู่ 106.00
XAU/USD (Gold) – เป็นขาลง
คู่นี้อาจปรับตัวลงสู่ 1760 ในสัปดาห์นี้
U30USD (Dow) – เป็นขาลง
ดัชนีนี้อาจปรับตัวลงศุ่ 24280 ในสัปดาห์นี้
ทีมวิจัยฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์
คู่ค้าที่ทุ่มเทของคุณ
