เสียครั้งหรือสองครั้งยังถือว่าปกติ แต่ถ้าเสียห้าถึงหกครั้งขึ้นไปถือว่าการเทรดของคุณสูญเสียเสถียรภาพแล้ว ในความเป็นจริง นักเทรดที่ประสบความสำเร็จคือนักเทรดที่เทรดเสียจำนวนน้อยกว่าเทรดได้ในแต่ละปี หัวใจหลักคือทำกำไรให้ได้มากที่สุดในช่วงกำไร และขาดทุนให้น้อยที่สุดในช่วงขาดทุน.
ผมได้พูดคุยเกี่ยวกับเคล็ดลับเพื่อลดการเทรดเสียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมได้ใช้มันมากว่าหนึ่งปีจากคนเก่งๆในวงการ ซึ่งผมสรุปเอาไว้ดังนี้:
- ทำบันทึกการเทรดโดยละเอียดและเข้าใจเรื่องสถิติการเทรด
นักเทรดต้องเข้าใจอัตราการชนะ หากคุณต้องการชนะ 50% ไม่ได้ความว่ากลยุทธ์ของคุณจะเลือกการแพ้หรือชนะได้ เช่น ชนะ แล้วแพ้ แล้วชนะอีก บันทึกการเทรดจะทำให้คุณติดตามการเทรดและพบอุปสรรคระหว่างการเทรดได้และเทรดเสียของคุณ มันจะทำให้คุณหาวิธีปรับให้เหมาะสมได้ง่ายขึ้น.
อัตราการชนะ 50% อาจจะมาจากเสียติดต่อกันเจ็ดครั้งและได้ติดต่อกันเจ็ดครั้ง และต่อให้เสียมากขึ้นแต่ได้มากขึ้นอัตรากรทำกำไรของคุณก็จะยังคงอยู่ที่ 50%.
อย่างไรก็ตามด้วยตัวอย่างนี้ มีโอกาสที่จะทำให้นักเทรดทิ้งแผนการเทรดของตนเอง เนื่องจากอัตราการแพ้มากขึ้นและอัตราการฟื้นตัวจากดรอว์ดาวน์นานขึ้น แต่ในขณะที่กำลังแกว่งไปมาระหว่างได้กับเสีย มันจะสำคัญไหมแม้ว่าจะได้เจ็ดครั้งติดต่อกันก่อนจะเสีย? คุณอาจรู้สึกไร้เทียมทานเมื่อเทรดได้เจ็ดครั้งติดต่อกัน แต่นั่นไม่สำคัญ ความเป็นไปได้ระหว่างได้กับเสียยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ที่ต่างกันคือความคิด.
หากมีระบบที่ทำให้คุณชนะ10ครั้งและแพ้10ครั้งคงไม่ใช่อะไรที่ดีนัก การแพ้ติดต่อกันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของการชนะที่ใหญ่กว่า ที่พูดแบบนั้นเพราะผมเคยเจอปรมาจารย์นัดเทรดที่เสีย 30 ครั้ง ติดต่อกันก่อนจะชนะครั้งใหญ่และยังคงชนะไปเรื่อยๆตลอดทั้งปี.
ปกติมันจะดีกว่าหากเรายึดติดกับแผนที่วางออกมาดีแล้วและได้รับการทดสอบถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่เสียติดต่อกัน ดีกว่าที่จะพยายามแก้ไขแผน และคุณต้องมั่นใจว่าเงื่อนไขของกลยุทธ์ที่คุณใช้อยู่นั้นดี รู้ว่าเวลไหนไม่ควรเทรดดีกว่ารู้ว่าเวลาไหนควรเทรด.
- ต้องพักบ้าง
พักหายใจและอยู่กับความคิดตัวเองบ้าง ต้องแน่ใจว่าการเสียต่อเนื่องนี้ไม่ได้เป็นเพราะเทรดนอกแผนหรือเข้าเทรดแบบสุ่ม หาวันหยุดสักสองสามวันบ้างถือเป็นเรื่องที่ดี ในขณะเดียวกันต้องยอมรับความพ่ายแพ้และรับรู้ว่าการเสียติดต่อกันได้เกิดขึ้นแล้วจริๆง แต่ไม่ต้องหนีไปพักทุกครั้งที่เสียเล็กน้อย แบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกัน.
อีกทางเลือกหนึ่งคือ รอให้มีคนเทรดได้ บางทีการเสียติดต่อกันห้าครั้งคุณอาจตัดสินใจไม่เทรดอีกเลยจนกว่าจะเห็นคนชนะจากกลยุทธ์นี้ คุณเลยไม่ตามสัญญาณอันต่อมา ซึ่งมันจะได้หรือเสียก็ได้ คุณไม่มีทางรู้เลย แต่พอมีคนเทรดได้ (ซึ่งไม่ใช่คุณ) คุณก็เริ่มมาเทรดอีกครั้ง แต่กว่าจะรอให้เห็นคนเทรดได้ ตลาดก็อาจกลับมาเป็นทิศทางที่ไม่ตรงกับกลยุทธ์แล้ว คำเตือนถ้าจะใช้วิธีนี้คือ หากทำบ่อยๆจะเป็นโรคกลัวเทรดเสีย.
- อย่าเป็นคนยึดติด
มันเป็นเรื่องธรรมดาของนักเทรดที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาคืนจากเงินที่เสียไปให้กับตลาดแต่ไม่ค่อยจะทำอะไรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของจิตใจและอารมณ์สักเท่าไหร่ เรื่องนี้ทำให้การเทรดเพื่อเอาคืนกลายเป็นปัญหาใหญ่.
ผมแนะนำให้คุณทำอะไรตรงข้ามดูสักเล็กน้อยครับ เทรดให้น้อยลงซึ่งมันจะทำให้เงินทุนคุณเสี่ยงน้อยลงเช่นกัน จนเมื่อประสิทธิภาพในการทำกำไรกลับมาแล้วคุณจึงเริ่มกลับมาเทรดเท่าเดิม นักเทรดที่ประสบความสำเร็จท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากคือคนที่ทำสมาธิและรักษาแนวทางอนุรักษ์นิยมเอาไว้.
- เทรดต่อไปแม้จะยังเสียอยู่
อาจจะฟังดูไม่ค่อยฉลาดแต่เมื่อเวลาคุณเผชิญหน้ากับการเสียต่อเนื่อง คุณต้องเทรดต่อไปโดยไม่เปลี่ยนวิธีการเทรด ซึ่งการรับมือกับเวลาเทรดเสียต่อเนื่องนั้นจะกระทบกับความสม่ำเสมอในอนาคต.
ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีการหรือปรับทันทีจากที่เสียไปเพียงเล็กน้อย ก็มีแนวโน้มที่คุณจะไม่ได้ความสำเร็จใดๆแบบสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอมาจากการหาจุดที่ให้ผลประโยชน์ได้มากที่สุดในกลยุทธ์ของคุณอย่างไม่ลดละ และเทรดต่อไปตามนั้น.
คุณจะไม่เคยเห็นผู้จัดการคาสิโนเข้าแทรกแซงเกมไพ่แบล็คแจ็คถึงแม้ว่าเจ้ามือจะกำลังเสียอยู่ พวกเขารู้ว่ารอไปสักพักเดี๋ยวเกมก็พลิกกลับและเขาจะได้รู้ว่าอะไรคือจุดได้เปรียบของเขาที่ทำให้เกมพลิก ให้นำความคิดแบบผู้จัดการคาสิโนมาปรับใช้ในการเทรดของคุณ เมื่อคุณได้สถิติของจุดได้เปรียบแล้วคุณก็เป็นเจ้ามือ และอาศัยความเป็นต่อเพื่อลงเล่น.
เรื่องนี้ยังปรับใช้ได้กรับนักเทรดประสบการณ์น้อยที่ไม่มีบันทึกสำหรับติดตาม ให้ทดสอบกลยุทธ์สักสองสามเดือนกับบัญชีทดลองก่อน ถ้าใช้ได้ก็นำมาใช้จริง หากคุณคิดว่าจะให้มีความเสี่ยงแค่ 1% หรือน้อยกว่าพอเอาเข้าจริงแล้วอย่างน้อยๆเสียสองครั้งติดก็ต้องมีเข้ามา ให้เทรดต่อไปแล้วคุณจะเลือกได้ว่ากลยุทธ์ไหนที่ต้องเก็บเอาไว้ และถ้ามันทำกำไรได้หลังจากที่เสียสองครั้งติดก็ให้เทรดต่อไป.
ข้อสุดท้ายที่อยากฝากไว้
ในการเทรดให้ได้กำไรคุณต้องเข้าออเดอร์โดยที่อารมณ์เป็นบวก เพราะคุณจะรับได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในตลาด.
ถ้าคุณเจอเจ็บชุดใหญ่เข้า ให้หยุดเทรดไปวันสองวันเพราะสมองคุณไม่มีที่ว่างพอจะตัดสินใจได้อย่างรอบคอบแน่นอน ประเมินแผนการเทรดและการข้าเทรด ระบุปัญหาและปรับแก้แผนเท่าที่จำเป็น ลองเทรดบัญชีทดลองสักเล็กน้อยให้กำไรเพื่อเรียกความมั่นใจแล้วค่อยกลับมาเทรดบัญชีจริงซึ่งจะทำให้รู้สึกถึงวันที่เคยประสบความสำเร็จ และเริ่มลงทีละน้อยก่อนในช่วงที่เพิ่งกลับมา.
โปรดจำไว้ว่าการทำเงินไม่ใช่หัวใจสำคัญแต่เป็นการสร้างความมั่นใจและปรับปรุงแผนต่างหาก ถ้าทุกอย่างเป็นไปดั่งใจคิดค่อยเพิ่มการซื้อขายให้เท่าปกติ (นักเทรดทั่วไปลงแค่1-3%ของทุนที่มี).
Louis Teo
นักยุทธศาสตร์การตลาด
