เทคนิคการเทรดแบบฝ่าวงล้อม เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญด้าน Forex หลายคน ใช้เทคนิคนี้ในหนังสือของพวกเขา หรือใช้เพื่อสอนในสัมมนาของพวกเขา
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงวิธีที่คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการฝ่าวงล้อมในตลาดเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด
ไกด์ไลน์ให้คร่าวๆ
การฝ่าวงล้อมเป็นเงื่อนไขที่ราคาทะลุระดับที่กำหนดไว้
โดยปกติ นักเทรดจะพบเห็นการฝ่าวงล้อมของราคา เมื่อมีแนวรับและแนวต้านที่แข็งแกร่ง ซึ่งราคาสามารถทะลุผ่านแนวเหล่านั้นได้ด้วยปริมาณหรือความผันผวนที่แน่นอน จากนั้นราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านถัดไป
ตัวอย่างเช่น ในแผนภูมิด้านล่าง เราจะเห็นว่ามีการสร้างแนวต้านและแนวรับหลายระดับก่อนหน้านี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่ราคาทะลุผ่านระดับนั้นออกไปได้ มันจะเคลื่อนไปยังระดับถัดไป
ระดับความแข็งแกร่งเกิดขึ้นเมื่อตลาดมีความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย อย่างที่เราทราบกันดี สถานการณ์การฝ่าวงล้อมของราคาเกิดขึ้น เมื่อมีความไม่สมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเห็นได้จากปริมาณความต้องการที่สูงและความผันผวนของราคา
ตลาดอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการรวมตัวของราคา /เป็นช่วงของราคา แต่ก็มีการเคลื่อนไหวมากพอที่จะทะลุผ่านระดับแนวรับและแนวต้านออกไปได้ ดังที่แสดงในแผนภูมิด้านล่าง
ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ในการเทรด Forex แต่เกือบทุกวิธีการเทรดจะประสบความสำเร็จหากดำเนินการอย่างถูกต้อง
หากคุณต้องการใช้กลยุทธ์การเทรดแบบฝ่าวงล้อม คุณต้องสามารถกำหนดระดับที่มีโอกาสเกิดการฝ่าวงล้อมได้ดีที่สุดได้ เช่น แนวรับและแนวต้านที่แข็งแกร่ง โดยพิจารณาจากระดับที่มองเห็นได้ในแผนภูมิ หรือโดยการคำนวณจุดกลับตัวราคารายวัน
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณต้องสามารถบอกความแตกต่างระหว่างการฝ่าวงล้อมของราคาจริงและปลอมได้
การฝ่าวงล้อมที่ผิดพลาด เกิดขึ้นเมื่อราคาตลาดดูเหมือนจะพยายามทะลุผ่านระดับราคาหนึ่ง แต่จะยกเลิกและกลับสู่ระดับตรงกันข้าม
เนื่องจากไม่มีความแน่นอนในการซื้อขาย จึงเป็นไปได้ที่เราจะทำผิดพลาดในการกำหนดระดับราคาของการฝ่าวงล้อม อย่างไรก็ตาม มีวิธีการตรวจสอบว่าระดับแนวรับ/แนวต้านที่เราเลือกนั้นถูกต้องหรือไม่
ในการพิจารณาระดับแนวรับและแนวต้าน เราสามารถใช้ไทม์เฟรมที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น H4 หรือ D1 และทำให้แน่ใจว่าราคาตลาดได้มีการมาชะลอตัวที่ระดับเหล่านี้บ่อยๆ ในอดีต เพื่อให้เราสามารถพิจารณาระดับเหล่านี้ได้ว่ามีความแข็งแกร่งพอ
หากเราใช้การคำนวณจุดหมุนของราคา เพื่อค้นหาระดับแนวรับและแนวต้าน เราจำเป็นต้องวาดมันบนแผนภูมิราคา เพื่อตรวจสอบว่าก่อนหน้านี้เคยถูกพิจารณาว่าเป็นแนวรับและแนวต้านหรือไม่
หากเราพบเห็นราคาอย่างน้อยสามราคา ที่อยู่ใกล้กับระดับแนวรับ/แนวต้าน เราสามารถพิจารณาได้ว่าระดับราคานั้นแข็งแกร่งเพียงพอ จากนั้นเราสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนตัวไปที่ใดด้วยความช่วยเหลือของตัวบ่งชี้มากมาย
ราคาตลาดพัฒนาแนวรับและแนวต้าน โดยใช้การคำนวณจุดหมุนของราคา ดังที่แสดงในตัวอย่างด้านล่าง แต่ระดับแนวรับและแนวต้านที่คล้ายคลึงกันจะต้องเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
.
มีตัวบ่งชี้หลายอย่างที่เราสามารถใช้ เพื่อสนับสนุนเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์การเทรดแบบฝ่าวงล้อมของราคา
เมื่อตลาดมีแนวโน้มเกิดขึ้น นักเทรดส่วนใหญ่ใช้ MA ช่วยในการระบุเทรนด์ที่เกิดขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดยอดนิยมที่นักเทรด Forex ใช้ อย่างไรก็ตาม สามารถใช้ตัวบ่งชี้เดียวกันนี้ เพื่อสร้างเทคนิคการเทรดแบบฝ่าวงล้อมของราคาและกำหนดระดับแนวรับหรือแนวต้านได้
เมื่อราคาตลาดอยู่เหนือเส้น MA ศักยภาพที่แท้จริงราคากำลังมุ่งหน้าปรับตัวขึ้น เราสามารถกำหนดระดับแนวรับ โดยใช้เส้น MA เมื่อตลาดกำลังรวมความแข็งแกร่งขึ้น เราก็พร้อมสำหรับการเทรดแบบฝ่าวงล้อมราคาโดยใช้เส้น MA
เมื่อเราตั้งค่าเส้น MA ลงในกราฟราคาและราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นนั้น โดยปกติเราจะสังเกตเห็นว่าเป็นแนวโน้มขาลง และเส้น MA จะถูกมองว่าเป็นระดับแนวต้าน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาเริ่มความแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เราอาจเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่ราคาตลาดจะทะลุเส้น MA และสร้างการฝ่าวงล้อมของราคาได้
ตัวอย่างเช่น เราจะเห็นได้จากแผนภูมิราคาด้านล่างว่าตลาดอยู่ในเทรนด์ แต่แล้วราคาก็เริ่มสร้างพื้นที่รวมความแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการฝ่าวงล้อมของราคาได้
ตัวบ่งชี้ MACD เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักเทรด Forex และใช้ด้วยเหตุผลที่ดี มีความน่าเชื่อถืออย่างยิ่งในขณะที่ยังคงเข้าใจง่าย และอาจศึกษาโดยใช้ฮิสโตแกรเทมเพลตม เมื่อฮิสโตแกรมเพิ่มขนาดขึ้น แสดงว่าโมเมนตัมเพิ่มขึ้น
คุณอาจสงสัยว่าจะใช้วิธีนี้เพื่อตรวจจับการกลับตัวของแนวโน้มของราคา หรือเทรนด์ได้อย่างไร คำตอบคือจะเกิดไดเวอร์เจนซ์ ( การแยก) ขึ้น เมื่อราคาและตัวชี้วัดเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม เนื่องจาก MACD เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัม จึงเผยให้เห็นการเคลื่อนไหวเมื่อเทรนด์ตลาดเริ่มต้นขึ้น นี่เป็นคุณลักษณะที่มีคุณค่ามาก เนื่องจากสามารถบอกคุณได้ว่าแนวโน้มเดิมกำลังจะสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน แม้ว่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม
เราสามารถรวมตัวบ่งชี้ MACD กับ MA และแนวรับและแนวต้านได้ ดังตัวอย่างที่แสดงในแผนภูมิราคาด้านล่าง ซึ่งเราใส่ใน 25 MA, MACD และเราพบระดับแนวรับ/แนวต้าน
เมื่อคุณเห็นว่า MACD แสดงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งและราคาเคลื่อนที่เหนือหรือต่ำกว่าเส้น MA เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
จากนั้นคุณสามารถตั้งค่าจุดเปิดราคาของคุณ ที่ระดับการฝ่าวงล้อมของราคา และตั้งค่าการหยุดการขาดทุนตามเส้น MA หรือเมื่อคุณเห็นโมเมนตัม MACD ที่มีค่าอ่อนตัวลง
Bollinger Bands ประกอบด้วยเส้นสามเส้น: คคคือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบธรรมดา 10 วัน (SMA) และเส้นคู่ขนานสองเส้นที่เป็นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสองค่า นอกเหนือจาก SMA แถบด้านนอกเหล่านี้ถูกใช้โดยนักเทรดเพื่อระบุว่าราคาอยูใรดับที่มากเกินไป ที่อาจส่งผลให้เกิดการฝ่าวงล้อมเพื่อการกลับตัวของราคา
เมื่อราคาแกว่งตัวออกนอกแถบด้านนอกเหล่านี้ จะถือเป็นตำแหน่งราคาที่รุนแรง และมีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดการฝ่าวงล้อมเพื่อการกลับตัวของราคา
นักเทรดสามารถใช้ Bollinger Bands เพื่อเปิดตำแหน่งการเข้าเทรดในคู่สกุลเงิน เมื่อใดก็ตามที่ราคาตัดผ่านหนึ่งในแถบเหล่านี้ คุณอาจใช้ MACD ร่วมกับ BB เพื่อกำหนดโมเมนตัมที่อาจเกิดขึ้นสำหรับการฝ่าวงล้อมนี้
นอกจากนี้ BB สามารถรวมกับระดับแนวรับและแนวต้านตามที่แสดงในแผนภูมิด้านล่าง เพื่อทำนายการฝ่าวงล้อมของราคาที่เป็นไปได้
จับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาที่มีรวมความแข็งแกร่งขึ้น หากคุณเห็น Upper Band และ Lower Bands ของ BB อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับแนวรับและแนวต้าน ให้คาดว่าจะมีการ Breakout เกิดขึ้นได้ เมื่อราคาทะลุระดับแนวรับ/แนวต้าน
เมื่อทำการเทรด breakout Forex สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ามีมันมีอยู่สองประเภทคือ:
บางครั้งราคาตลาดต้องผ่าน Range-bound ของการเคลื่อนไหวที่มีขอบเขตจำกัด เนื่องจากผู้ซื้อและผู้ขายหยุดชั่วคราวเพื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ส่งผลให้ราคามีการวิ่งปรับตัวในช่วงแคบๆ และมีการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ตามทิศทางเดียวเกิดขึ้นตามมาได้
ตัวอย่างเช่น ผู้ขายจำนวนมากกำลังพักหายใจ ก่อนที่จะตัดสินใจในขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะสะท้อนถึงตลาดในช่วงขาลง
เหตุการณ์นี้เรียกว่า การรวบรวมของระดับความแข็งแกร่งของราคา
การฝ่าวงล้อมของราคาต่อเนื่อง เกิดขึ้นเมื่อเหล่านักเทรดสรุปว่าการตามช่วงเริ่มต้นแนวโน้มหรือเทรดตามเทรนด์ เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และยังคงผลักดันราคาไปในทิศทางเดียวกัน.
การฝ่าวงล้อมเพื่อการกลับตัวของราคา เริ่มต้นในลักษณะเดียวกันกับการ การฝ่าวงล้อมของราคาต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการหยุดชะงักของการเคลื่อนไหวตามเทรนด์ หรือการรวบรวมตัวของความแข็งแกร่งราคาตามแนวโน้มที่ยืดเยื้อ หรือเริ่มมีลักษณะการวิ่งไซต์เวย์ในกรอบของราคา
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามหรือย้อนกลับไปอีกทาง หลังจากการรวมความแข็งแกร่งนี้ เนื่องจากนักเทรด Forex ร่วมกันตัดสินใจว่าแนวโน้มได้ดำเนินไปตามวิถีทางแล้ว
หนึ่งในเทคนิคยอดนิยมสำหรับการเทรดแบบฝ่าวงล้อมคือ การรวมตัวบ่งชี้ MA กับแนวรับและแนวต้าน
ในการเริ่มต้น เราจะตั้งค่า 25 MA ตามที่แสดงในแผนภูมิราคา
เราจะเห็นว่าราคาเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น แล้วเข้าสู่ช่วงการรวมตัวของความแข็งแกร่งราคา หลังจากนั้นเราสามารถกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านได้ และหลังจากนี้เราอาจเตรียมการเทรดแบบฝ่าวงล้อมราคาได้
ตามแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่การรวมตัวของความแข็งแกร่งราคา จากนั้นจึงทะลุออกมา ก่อให้เกิดการฝ่าวงล้อมของราคาอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้ถึงตาคุณแล้ว ลองใช้เคล็ดลับนี้และค้นหาว่าคุณสามารถทำกำไรจากการเทรดแบบฝ่าวงล้อมของราคาได้มากน้อยเพียงใด
พร้อมที่จะสร้างการเติบโตของความมั่งคั่งของคุณในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วหรือยัง? ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าการเริ่มต้นที่นี่กับเรา! เริ่มเทรดกับ Fullerton Markets วันนี้โดยเปิดบัญชี: