Editor's Note (สารจากบรรณาธิการ) :บล็อกโพสต์นี้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2019 และได้รับการอัปเดตเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมยิ่งขึ้น
นักเทรด Forex ส่วนใหญ่จะเคยเจอวลีนี้ ที่ไหนสักแห่งในเส้นทางการเทรดของพวกเขา:“ เทรนด์เป็นเพื่อนของคุณจนกว่ามันจะจบลง”
หลายคนทำผิดพลาดในการซื้อขายในทุกสภาวะตลาด ส่งผลให้ขาดทุน เนื่องจากกลยุทธ์ของพวกเขาไม่ได้ผลในบางช่วงเวลา สิ่งนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อตลาดไม่แน่นอน หรือเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ซึ่งจะลดความแม่นยำและประสิทธิผลในการเทรดของคุณ
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างของราคาตลาดที่เคลื่อนไหวเป็นแนว (EUR/CAD) ที่อยู่ในช่วง 300 pips
อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่ว่าตลาดไม่ได้มีการวิ่งเป็นเทรนด์เสมอไป ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
ในบทความนี้ เราจะพูดถึงวิธีระบุตลาดที่มีความผันผวนต่ำ และสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อการซื้อขายในตลาด Forex อย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่ามันจะเคลื่อนไหวช้าก็ตาม
การเทรดในสภาวะที่มีความผันผวนต่ำคืออะไร?
ในการเทรด ความผันผวนเป็นตัวชี้วัดว่า ราคาหรือผลตอบแทนกระจายไปตามช่วงเวลาของสินทรัพย์หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดบ้าง
ความผันผวนสร้างศักยภาพในการทำกำไรได้มาก ดังนั้นนักเทรดส่วนใหญ่จึงชอบการซื้อขายตามแนวโน้ม เนื่องจากมีความผันผวนมากและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วย
ในทางกลับกันเมื่อตลาดมีความผันผวนต่ำ ความสามารถในการทำกำไรก็ต่ำลงเช่นกัน นี่คือสาเหตุที่นักเทรดระมัดระวังในเงื่อนไขดังกล่าวมากขึ้น
เราจะแยกแยะความผันผวนต่ำของตลาดได้อย่างไร?
มี 3 วิธีในการแยกแยะความผันผวนต่ำ
1. แยกแยะจาก จุดราคาสูงสุดและต่ำสุด
ในแนวโน้มราคา เรามักจะมีซีรีย์ของ จุดสูงของราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และจุดต่ำของราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ (แนวโน้มขาขึ้น) ตลอดจนซีรีย์ของของ จุดสูงของราคาที่ต่ำลงเรื่อยๆ และจุดต่ำของราคาที่ต่ำลงเรื่อยๆ (แนวโน้มขาลง)
ดังนั้นเมื่อราคาในตลาดไม่ได้ระบุซีรีส์เช่นนี้ แสดงว่ามีการสร้างแนวของราคา
ในการระบุว่าเป็นแนวราคา ให้พิจารณาการดีดตัวกลับ 2 ครั้งจากด้านบนสุดของแนว และ 2 ครั้งจากด้านล่าง (ตามที่ทำเครื่องหมายด้วยเส้นสีเหลืองด้านล่าง)
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์แนวราคา และกฎ 3 ข้อของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ
2. ใช้ตัวบ่งชี้ที่เรียกว่า Bollinger Bands
Bollinger Bands เป็นตัวบ่งชี้ที่นักเทรดคุ้นเคย เมื่อ Bollinger Bands ปรับตัวแคบลง เราจะเห็นว่าตลาดจะมีความผันผวนต่ำ
นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีการเทรดด้วย Bollinger Bands:
3. ใช้ตัวบ่งชี้ที่เรียกว่า Average Directional Index
Average Directional Index (ADX) เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้วัดความผันผวนของตลาด ADX ที่ต่ำกว่า 20 แสดงว่าตลาดมีความผันผวนต่ำ
เราควรใช้กลยุทธ์ใดในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ?
ในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ นักเทรดจะพบว่าการทำกำไรทำได้ยากขึ้น
แต่มี 5 สิ่งที่คุณสามารถทำได้ หากคุณพบกับช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนต่ำ
1. พักสมองบ้าง
วิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างรายได้ที่จริงแล้วคือ การรักษาเงินทุนเอาไว้ให้ได้ นักเทรดส่วนใหญ่ไม่ได้รักษาเงินทุนไว้นานพอที่จะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นหากสภาพตลาดที่ไม่แน่นอนนั้นไม่เหมาะกับคุณ อย่าเพิ่งทำการเทรดในช่วงเวลานั้น
คุณควรหยุดพักบ้างสักหนึ่งสัปดาห์ และเงินของคุณจะยังคงอยู่ที่นั่น จำไว้เสมอว่าอย่าบังคับตัวเองให้เข้าทำการเทรดตลอดเวลา
2. เทรดโดยใช้ ไทม์เฟรมที่เล็กว่า
คุณสามารถใช้ 3 วิธีในการพิจารณาสภาวะความผันผวนต่ำของตลาด ตามที่กล่าวมาข้างต้น แทนที่จะใช้ไทม์เฟรมขนาดใหญ่ แต่ให้เลือกเทรดในไทม์เฟรมที่เล็กกว่า
3. เลือกใช้กลยุทธ์การเคลื่อนอยู่ในกรอบของราคา
นี่อาจเป็นคำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุด พิจารณาใช้กลยุทธ์ที่ราคามีการเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ ในตลาดที่ราคาวิ่งเป็นแนว แต่โปรดทราบว่าความผันผวนที่ต่ำในตลาดที่วิ่งเป็นแนวราคานั้น ทำให้เกิดการทะลุออกนอกแนวที่ไม่ค่อยมีความแน่นอนมากที่สุด และหยุดการไล่กวดราคา สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ เราต้องปรับ Stop Loss (SL) และปรับขนาดล็อตให้สอดคล้องกัน
ดังนั้นเราจะพิจารณาได้อย่างไรว่าตลาดมีการเคลื่อนไหวอยู่ในแนวหรือไม่? เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่นักเทรดบางรายใช้ เพื่อตรวจสอบสภาพตลาดคือ Exponential Moving Averages (EMA) ตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ในแนว แสดงด้วยแนวรับและแนวต้านที่ไม่ค่อยชัดเจน เช่นเดียวกับแท่งเทียนที่ไม่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ชัดเจน
ด้านล่างนี้คือตัวอย่างเส้นสีน้ำเงินคือ EMA 8 วัน และเส้นสีแดงคือ EMA 21 วัน คุณจะเห็นได้ว่า EMA ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และมีเคลื่อนตัวตัดกันบ่อยครั้ง
The Exponential Moving Averages (EMAs) Graphic
หากเราขยายขึ้น เราจะพบแนวราคาที่ดี และแนวราคาที่ขาด ๆ หาย ๆ จากแผนภูมิด้านล่าง
แนวราคาที่ดี และแนวราคาที่ขาดๆ หายๆ
อีกทางเลือกหนึ่งคือ การตีเส้นแนวรับและแนวต้าน จากจุดสูงสุดและต่ำสุดก่อนหน้านี้ จากนั้นเราอาจพบรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่แนวต้านและแนวรับ สำหรับมองหาจังหวะการเข้าเทรด
คุณสามารถใช้ตัวบ่งชี้ที่บอกสัญญาณการซื้อ-ขายมากเกินไป เช่น Relative Strength Index (RSI) และ Stochastic สำหรับการสนับสนุน
4. ใช้กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม
หลังจากการวิ่งเป็นของราคา ตลาดมักจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับ และสร้างแนวโน้มของราคา
รอให้แท่งเทียนปิดเหนือแนวต้านหรือต่ำกว่าแนวรับ คุณสามารถป้อนคำสั่ง Buy หรือ Sell ด้วยการกำหนดระยะ SL = ½ ของแนวราคา
โปรดอย่าลืมว่าว่าคุณควรต้องมี Stop Loss อยู่เสมอ เนื่องจากตลาดมักจะ failed breaks.
5. โฟกัสที่ปริมาณการเทรดขนาดเล็ก
ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำ อย่าคาดหวังว่าจะมีคำสั่งซื้อจำนวนมาก ดังนั้นให้เน้นที่คำสั่งซื้อขนาดเล็ก พร้อมกับอัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:1
นอกจากนี้ อย่าลืมทำการเทรดซ้ำด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณ เลือกฝั่งหนึ่งในการเทรด และเทรดฝั่งนั้นจนกว่ามันจะหยุดทำงานให้คุณ
สรุปได้ว่า สภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำอาจไม่ใช่ตลาดที่เหมาะที่สุดในการเทรด เนื่องจากตลาดไม่แน่ใจว่าจะไปในทิศทางใด สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือ อย่าเข้าทำการเทรดเลยจนกว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจน หรือเมื่อคุณสามารถระบุการเคลื่อนไหวในกรอบที่ชัดเจนของราคา เพื่อใช้กลยุทธ์การเคลื่อนไหวในกรอบราคาของคุณ อย่าลืมเทรดในไทม์เฟรมที่เล็กลง และทำซ้ำในไทม์เฟรมที่เหมาะกับคุณ
พร้อมที่จะขยายความมั่งคั่งของคุณในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือยัง? ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าที่นี่กับเรา! เริ่มต้นการเทรดกับ Fullerton Markets วันนี้โดยเปิดบัญชี:
คุณอาจสนใจหัวข้อนี้: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสกุลเงินต่างๆ และการพึ่งพาปัจจัยสำคัญของสกุลเงินและวิธีใช้สิ่งนี้เพื่อประโยชน์ในการทำกำไรของคุณ