7 หลักความเป็นผู้นำเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

อะไรคือความหมายที่แท้จริงของคำว่าคำเป็นผู้นำและทำไมผู้นำความเป็นผู้นำจึงสำคัญยิ่ง

จอห์น แม็กซ์เวล กล่าวว่าความเป็นผู้นำคืออิทธิพล โคลิน พาวเวลล์กล่าวว่าความเป็นผู้นำคือเอกลักษณ์ ขณะที่ทั้ง 2 ให้คำจำกัดความนี้จะอธิบายได้ชัดเจนของความเป็นผู้นำไว้มากเพียงใด อีกคนหนึ่งที่ให้ความชัดเจนของคำนี้กับผมได้มากที่สุดคือ วาร์เรน เบนนิส

ในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า “On Becoming A Leader” วาร์เรน กล่าวว่าความเป็นผู้นำที่ดีนั้นไม่ได้ออกไปเพื่อแสดงความเป็นตัวเอง พวกเขาต้องการแสดงออกความเป็นตัวเองย่างเต็มที่ ผมชอบความหมายนี้เพราะมันให้ความสำคัญอย่างมากกับความเป็นปัจเจกบุคคล คุณต้องสร้างคุณค่าจากภายใน ก่อนที่คุณจะเพิ่มมูลค่ามหาศาลจากภายนอก

อย่างไรก็ดี คุณไม่สามารถให้ในสิ่งที่คุณไม่มี

ความเป็นผู้นำมีสำคัญเพราะองค์กรรับเอาเอกลักษณ์จากผู้นำของพวกเขา หากถูกทางความเป็นผู้นำสามารถสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างวัฒนธรรมในองค์กรและขับเคลื่อนองค์กรให้เจริญยิ่งขึ้นไป หากผิดทาง ความเป็นผู้นำก็สามารถทำลายทุกอย่างในองค์กาได้เช่นกัน

และนี่คือ 7 หลักความเป็นผู้นำเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

1. สร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง

ก่อนที่คุณจะสามารถนำทางและมีอิทธิพลต่อผู้คนได้ ก่อนอื่นคุณต้องเรียนรู้วิธีดูแลร่างกายของคุณให้ดี นี่เป็นเครื่องยนต์เดียวที่ติดตัวคุณไปทุกที่ มาดู 3 ข้อบ่งชี้นี้กัน

• การกิน

• การนอนหลับพักผ่อน

ตามที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า “การฝืนการนอนหลับส่งผลต่อสภาพจิตใจและร่างกายของคนเราและทำให้คุณภาพชีวิตของคุณลดลง การนอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุทั้งหมดถึง 15%” ข้อดีของ ”การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ” ได้รับการสนับสนุนว่า ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำและมีสมาธิ มีชีวิตที่ยืนยาว ลดความเครียดและลดความเสี่ยงภาวะโรคซึมเศร้า

แล้วคุณนอนหลับพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ ระหว่าง 6-7 ชั่วโมงต่อคืน

• การออกกำลังกาย

เราทุกคนที่ทำงานตามปกติทำหน้าที่ของเราอย่างไม่หยุดนิ่ง นี่คือที่เพิ่มความพยายามให้คุณเลือที่จะออกไปและออกกำลังกาย เราทุกคนเข้าใจและเห็นด้วยกับประโยชน์ที่ได้รับจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มพลังกาย ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ 

จำไว้เสมอว่าสุขภาพที่แข็งแรงไม่สามารถมีอยู่ในร่างกายที่ไม่แข็งแรงได้

2. มีความรับผิดชอบ 100%

ใครบ้างที่ได้ผลลัพธ์ทุกอย่างตามที่ต้องการจากการตัดสินใจในอดีต ซึ่งรวมทุกอย่างจากความสำเร็จของคุณ
ความสัมพันธ์ สุขภาพร่างกายและอาชีพของคุณ ไม่มีใคร "บังคับ" ให้คุณเป็นคุณในวันนี้ มันเคบเป็นและยังเป็นความรับผิดชอบของคุณ 100% หากคุณไม่ชอบผลของคุณในปัจจุบัน คุณต้องเริ่มต้นการตัดสินใจในแบบที่ต่างออกไป หยุดโทษคนอื่นสำหรับความโชคร้ายและความพ้ายแพ้ เริ่มไตร่ตรองว่าคุณและคุณเท่านั้นที่รับผิดชอบต่อชีวิตของคุณ

               หากปัจจุบันคุณเป็นผู้นำองค์กร จำไว้ว่าทั้งองค์กรของคุณสะท้อนเงาของคุณ คุณมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงหากคุณไม่พอใจในสถานการณ์ปัจจุบัน เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ จำไว้ว่าหากปราศจากการตัดสินใจแล้ว คุณจะไม่สามารถเริ่มต้นอะไรที่สำคัญได้โดยปราศจากวินัย และคุณจะไม่สามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงได้

3. การยอมรับการเปลี่ยนแปลง

               คุณเห็นแผ่นฟล็อปปี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือ “วอร์คแมน” การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งเดียวที่คงอยู่ในโลกใบนี้ ในขณะที่เราส่นมากยอมรับว่าทุกอย่างมีความเปลี่ยนแปลง มีแค่ไม่กี่อย่างที่เราต้องการที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เปิดต้อนรับในการเปลี่ยนแปลง มีเหตุผล 2 สิ่ง  กลัวความล้มเหลวและความกลัวกับสิ่งที่ไม่รู้จัก นี่คือเหตุผลที่เราชอบอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของเราและร้องเรียนแต่ไม่ดำเนินการใด ๆ

Harvard Business Reviews กล่าวว่า “เทคโนโลยีจะแทนที่นายแพทย์ ทนายความและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆจำนวนมาก”

นั่นไม่ใช่แค่ความคิดที่น่ากลัว แต่มันคือความจริง ยิ่งคุณยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้เร็วมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราดีขึ้น คำถามที่แท้จริงคือ อย่างไร

"ไม่มีอะไรที่คุ้มค่าในชีวิตจนกว่าคุณจะเสี่ยง ไม่มี"

เดนเซล วอร์ชิงตัน

4. ขยายวิสัยทัศน์ของคุณ

บุคคลสำคัญอย่าง สตีฟ จอบส์ กล่าวสุนทรพจน์ในปี 1983:

คุณมีวิสัยทัศน์สำหรับตัวคุณเองและองค์กรของคุณหรือไม่ หากว่าไม่ สร้างมันขึ้นมาสักอย่าง แต่หากกว่า ใช่ถึงเวลาที่ขยายให้มันใหญ่ขึ้น

5. การตั้งเป้าหมาย

• ความกลัว ความกังวล

• ความขี้เกียจ

• ภาพตัวเองที่แย่ๆ

การวิจัยพบว่าก้นบึ้งสำหรับคนส่วนใหญ่คือประโยคฝังอยู่ในหัวว่า “ฉันยังดีไม่พอ” ในทางจิตวิทยายืนยันว่าเหตุผลส่วนใหญ่ที่เราเลือกที่จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และเล็กให้เล็กที่สุด เราไม่คิดว่าเราสมควรจะจะทำงานได้ ล้านดอลลาร์ มีงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยความสุข หรืออยู่ในบ้านหลังงาม อย่างไรก็ตาม นี่คือคำถากถาง หากคุณคิดว่าไม่สมควรได้รับสิ่งนี้  เราจะจบลงด้วยการที่เราทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เราได้มันมา

นี่คือ “4P Matrix” ของผมซึ่งช่วยให้ผม ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถกำหนดเป้าหมายของฉันได้อย่างชัดเจน เขียนเป้าหมายใน 1ช่อง กำหนดให้เฉพาะเจาะจงและกำหนดกรอบเวลาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

ส่วนตัว – นี่อาจเป็นสิ่งที่ต้องการคือการเดินทางรอบโลก ลดน้ำหนัก หรือเลิกบุหรี่

กำไร - กำหนดเป้าหมายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการออมทรัพย์หรือการสร้างความมั่งคั่ง ทั้งจากอาชีพธุรกิจหรือผลงานทางการเงินของคุณ

บุคคล - ตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์หรือช่วยเหลือบุคคลอื่น  

ปรัชญา - กำหนดเป้าหมายเพื่อแทนที่ความเชื่อที่ จำกัด ด้วยการให้อำนาจ ปรัชญาของคุณคือมุมมองโลกทัศน์ของคุณ เป็นชุดของความเชื่อและประสบการณ์ที่สร้างความเข้มแข็งให้กับโลกของคุณ 

6. เลือกทีมที่ยอดเยี่ยม

ภาษิตชาวแอฟริกันโบราณกล่าวว่า “ถ้าคุณอย่างไปเร็วให้ไปคนเดียว ถ้าคุณอย่าไปไกลให้ไปด้วยกัน”

ความจริง คือไม่มีสามารถอยู่ได้คนเดียว สิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมักเกิดจากความสำเร็จโดยทีม อย่างไรก็ตามหลักการที่ลึกซึ้งคือ คุณดีในบางสิ่งบางอย่างและไม่ดีอย่างคนอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเก่งในด้วนการสร้างสรรค์หรือกลยุทธ์ธุรกิจ แต่แย่มากในด้านการบัญชีหรือการจัดการ

หากคุณอยู่ในตำแหน่งที่ 3 ไม่ได้หมายความว่าเวลาที่ใช้ในการพัฒนาทักษะของคุณจะนำคุณไปอยู่ที่ 9 หรือ 10 แต่หาทีมที่ดีในด้านกาบัญชี นี่คือสิ่งที่ทำให้ทีมได้รับความยิ่งใหญ่กว่าคนๆเดียว ให้ความสำคัญกับการที่อยู่ลำดับ 10 ในแบบทีมดีกว่าอยู่ลำดับที 3 โดดทั้งหมดของคุณ

หากคุณเริ่มต้นจากองค์กรเล็กๆ ใช้ “M.A.P.” ของผมในการสร้างทีมที่ยิ่งใหญ่

M      =       มาร์เก็ตติ้ง

A       =       การจัดการ

P       =       การผลิต

7. พูดคำว่า “ได้” ให้กับชีวิต

มาริโอ้ สิงห์

CEO