MT4 กับ MT5: การเปรียบเทียบระหว่างแพลตฟอร์มการซื้อขาย สายพันธุ์เก่าและสายพันธุ์ใหม่

คุณควรใช้ MT4 หรือ MT5 ดี? หรือคุณควรเปลี่ยนจากการยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคยและใช้งานได้สะดวกดีหรือไม่?

คำตอบไม่ได้ตรงไปตรงไปที่ ใช่ หรือ ไม่ใช่

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าเทคโนโลยี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ใช้ได้ผลในตอนนี้ อาจไม่จำเป็นต้องใช้งานได้ในอนาคตก็เป็นได้

บทเรียนจากประวัติศาสตร์สั้นๆ

การเปรียบเทียบสองแพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรมการเทรด ได้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อไม่นานมานี้บทสนทนาเข้มข้นขึ้น และมีเหตุผลที่จะอธิบายสำหรับเรื่องนี้

MT4 มีมานานแล้ว เปิดตัวให้ใช่งานในปี 2005 ซึ่งมีอายุ 15 ปีแล้ว เป็นการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับแพลตฟอร์มการซื้อขาย Forex ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมโบรกเกอร์ Forex หลายราย จึงนำเสนอการใช้งานบนแพลตฟอร์มนี้

การที่จะบอกว่าเป็นที่นิยมนั้น เป็นเรื่องที่ดูแคลนมากเกินไป
ซึ่งผู้ซื้อขาย Forex ทุกคน คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ในการเปรียบเทียบนั้น,
MT5 ออกมาห้าปีหลังจากที่ MT4 เปิดให้ใช้ เนื่องจากมีโบรกเกอร์ Forex ไม่มากนักที่มี MT5 ให้ใช้ จึงไม่เป็นที่นิยม นี่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่คุ้มที่จะทำการวิเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณซื้อขาย หุ้น พันธบัตร options หรือ ฟิวเจอร์ ในสกุลเงินหลักสำคัญๆ

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแพลตฟอร์มการซื้อขายเหล่านี้คือ แพลตฟอร์มที่ใหม่กว่ารองรับตลาดเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ Forex อย่างเดียว เป็นทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับนักลงทุน ที่มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายในการเทรดสินทรัพย์ต่างๆ

MT5 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ไม่พบใน MT4 และยังฟีเจอร์การใช้งานที่ยังคงความคล้ายคลึงกัน แต่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น

เหตุผลนี้เพียงพอที่จะเปลี่ยนจาก MT4 ไปใช้ MT5 หรือไม่?

อาจจะ.

หากคุณยังจำได้ MetaQuotes ประกาศในปี 2018 ว่าจะไม่ขายแพลตฟอร์ม MT4 อีกต่อไป เพราะมันล้าสมัยและไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ นักพัฒนาได้ผลักดันให้ใช้ MT5 ตั้งแต่นั้นมา

ดังนั้นในตอนนี้ คุณควรต้องสำรวจการใช้งาน MT5 เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาง่ายขึ้นสำหรับคุณ

MT4 กับ MT5: ภาพรวมคร่าวๆ

MT4 vs MT5: ฟีเจอร์พื้นฐานของทั้งสองแพลตฟอร์มมีอะไรบ้าง?

เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนผ่านการเปลี่ยนไปใช้ MT5 อาจไม่ใช่เรื่องที่สั่นสะเทือนวงการเท่าใดนัก เนื่องจากมีการแบ่งปันฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกันกับแพลตฟอร์ม MT4 ในความเป็นจริง บางส่วนของฟังก์ชันเหล่านี้ดีกว่า หรือมาพร้อมกับตัวเลือกเพิ่มเติมมากกว่าเดิม ดังนั้นคุณจะเห็นฟังก์ชันที่คุ้นเคยและส่วนเพิ่มเติมใหม่ ๆ

Interface

ทั้ง MT4 และ MT5 มีอินเทอร์เฟซที่คล้ายกัน ยกเว้นบริการเพิ่มเติมและไทม์เฟรมในช่วงเวลาถัดมา สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นเนื่องจาก MT5 อนุญาตให้มีการซื้อขายในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาษาโปรแกรมที่แตกต่างในการพัฒนาแพลตฟอร์ม - MQL5 สำหรับ MT5 และ MQL4 สำหรับ MT4

ตลาดที่รองรับ

ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าทั้งสองแพลตฟอร์มรองรับการซื้อขาย Forex แต่ในฐานะแพลตฟอร์มที่มีหลากหลายสินทรัพย์ให้ซื้อขาย ใน MT5 สามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่เชื่อมต่อนักเทรดกับตลาด Forex อย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นประตูสู่ตลาด global exchange เชื่อมโยงนักลงทุนไปยังตลาดหุ้นต่างๆทั่วโลก รวมถึง Chicago Mercantile Exchange (CME), Dubai Gold และ Commodities Exchange (DGCX) และ Moscow Exchange (MOEX)

หลักทรัพย์ 3 ประเภทหลักที่ MT5 รองรับการซื้อขาย ได้แก่ พันธบัตร อนุพันธ์ และหุ้น

ประเภทของการดำเนินการคำสั่งซื้อ

ในขณะที่ MT4 รองรับการดำเนินการคำสั่งซื้อ 3 ประเภทเท่านั้น แต่ใน MT5 รองรับถึง 4 ประเภท โหมด Exchange execution เพิ่มเติม จะส่งการดำเนินการทางการเทรดไปยังระบบการซื้อขายภายนอก และดำเนินการตามราคาตลาดปัจจุบัน

คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ (Pending Order)

นอกเหนือจากประเภทคำสั่งรอดำเนินการมาตรฐานใน MT4 แล้ว MT5 ยังมีอีก 2 ประเภทเพิ่มเติม คือ - Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit คำสั่งรอดำเนินการ (pending order) มาตรฐาน 4 ประเภท จะดำเนินการเมื่อตรงตามเงื่อนไขเดียว แต่อีก 2 คำสั่งเพิ่มเติมต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสองประการ ก่อนที่ pending order จะถูกดำเนินการ

Buy Stop Limit เป็นการรวมคำสั่ง Buy Limit และ Buy Stop ตัวอย่างง่ายๆคือ เมื่อราคาปัจจุบันขึ้นไปที่ X คำสั่ง Buy Stop จะอยู่ที่ระดับ Stop level ที่ระบุ

ตัวอย่างของ Sell Stop Limit คือ เมื่อราคาปัจจุบันลดลงไปที่ X คำสั่ง Sell Limit จะถูกตั้งค่าไว้ที่จุดที่คาดว่าราคาถูก pullback กลับขึ้นไปด้านบน

Hedging

ทั้ง MT4 และ MT5 รองรับระบบบัญชี hedge แต่ฟังก์ชันนี้เพิ่งถูกเพิ่มเป็นระบบบัญชีที่สองในรุ่นหลัง เดิม MT5 ได้รับการออกแบบมาสำหรับการซื้อขายภายในระบบบัญชี netting การเพิ่ม hedging ช่วยขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม ทำให้ผู้ค้าสามารถ:

• มีหลายตำแหน่ง (position) ของตราสารทางการเงิน หรือต่อสัญลักษณ์ของสินทรัพย์ (Symbol) รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ในทิศทางตรงกันข้าม
  
• เปิดหนึ่งตำแหน่ง (position) ต่อหนึ่งตราสารทางการเงินจากนั้นปิด เปลี่ยนปริมาณ หรือย้อนกลับตำแหน่งที่มีอยู่ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขาย
  

Timeframes

MT5 มีไทม์เฟรมมากกว่า 12 จากเดิมมาตรฐาน 9 ไทม์เฟรมที่ MT4 มี ซึ่งรวมถึงแผนภูมิรายชั่วโมง 7 ประเภท และแผนภูมินาที 11 ประเภท นักเทรดวันสามารถตั้งค่าแผนภูมิของพวกเขาในไทม์เฟรม 2 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงและ 12 ชั่วโมง ได้

วัตถุสำหรับสร้างกราฟิก

ทั้ง MT4 และ MT5 มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจจับวงจร และระดับของแนวรับและแนวต้านเพื่อสร้างช่องทางและระบุแนวโน้มราคาของตราสารทางการเงินและอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ MT5 คุณจะได้รับมากกว่า 18 รายการของวัตถุสำหรับสร้างกราฟิกเพิ่มเติม จาก 33 รายการของ MT4 ซึ่งรวมเป็น 44 รายการ ซึ่งรวมถึง Regression Channel, Construction of Waves และสัญญาณ Buy and Sell

Symbols

เมื่อพูดถึงจำนวนตราสารทางการเงินที่ซื้อขายได้ MT4 สามารถรองรับได้สูงสุด 1024 สัญลักษณ์ (symbols) อย่างไรก็ตาม MT5 จะลบข้อจำกัดนี้ และรองรับไม่จำกัดจำนวน ทำให้นักเทรดติดตามหลากหลายตลาดได้มากขึ้น ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ hedging บนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Technical Indicators

แพลตฟอร์มการซื้อขายทั้งสอง มีเครื่องมือสร้างแผนภูมิที่สำคัญ ซึ่งสนับสนุนนักเทรด ที่พึ่งพาการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอย่างมาก ในขณะที่ MT4 มาพร้อมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในตัว 30 ตัว แต่ MT5 มีเพิ่มอีก 8 ตัว

เมื่อรวมกับวัตถุสำหรับสร้างกราฟิก 44 รายการ ที่สามารถนำไปใช้กับ 21 ไทม์เฟรม การสร้างแผนภูมิจะก้าวไปอีกระดับบนแพลตฟอร์ม MT5

Strategy Tester

เมื่อพูดถึงโปรแกรมทดสอบ EA (expert advisor) และโหมดการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือทดสอบกลยุทธ์ในตัวของ MT4 รองรับการทดสอบได้ทีละหนึ่งคู่เท่านั้น ในขณะที่ MT5 รองรับการทดสอบหลายๆ คู่ได้พร้อมกัน ที่ดำเนินการผ่านเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล สิ่งนี้ทำให้เวลาดำเนินการสั้นลง

หลายคู่สกุลเงิน - สามารถทดสอบ EAs ได้ในหลายสกุลเงินรวมถึง EAs ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียง แต่วิเคราะห์หลายสกุลเงินในคราวเดียวได้เท่านั้น แต่ยังระบุความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินได้อีกด้วย

Real ticks - การทดสอบ EA และการเพิ่มประสิทธิภาพทำได้โดยใช้ Real ticks ซึ่งจำลองให้ใกล้เคียงกับสภาพจริงของตลาดมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจาก ticks ที่สร้างขึ้น ซึ่งข้อมูลจะขึ้นอยู่กับบันทึกที่เก็บไว้ในหนึ่งนาที Real ticks จะถูกรวบรวมจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง และ exchanges

Email System

MT4 และ MT5 มีบริการอีเมลในตัว ที่ส่งการแจ้งเตือนจากแพลตฟอร์มการซื้อขายโดยตรง ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างทั้งสองคือหลังรองรับไฟล์แนบอีเมลในขณะที่แบบเดิมไม่ไฟล์แนบ

ฟีเจอร์ใน MT5 ใดที่ไม่มีใน MT4 บ้าง?

นโยบาย Partial Order Filling

ตัวเลือกนี้ ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถแก้ไขคำสั่งซื้อของตนเพื่อเติมเต็มบางส่วนได้ หากการซื้อขายพร้อมใช้งานด้วยปริมาณสูงสุด ขึ้นอยู่กับ limit order ที่ระบุไว้ มันจะถูกดำเนินการ ส่วนที่เหลือของวอลลุ่มที่ไม่ได้บรรจุลงนคำสั่ง จะถูกยกเลิก

นโยบาย Order Fill

การดำเนินการด่วนด้วย Fill or Kill ของ MT4 แพลตฟอร์มนี้ไม่ต้องมีจำเลย เลยพูดได้ว่า หากไม่พบปริมาณที่ระบุของคำสั่งซื้อ มันจะไม่ถูกดำเนินการ

มันคนละเรื่องกับ MT5 หากปริมาณที่ระบุไม่พร้อมใช้งานในตลาดในขณะนี้ สามารถเติมได้ด้วยข้อเสนออื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขการดำเนินการคำสั่งเพิ่มเติมที่สามารถกำหนดได้

Immediate หรือ Cancel – เมื่อไม่สามารถเติมคำสั่งซื้อได้อย่างสมบูรณ์ ปริมาณของคำสั่งซื้อที่มีอยู่จะถูกเติมเต็มในขณะที่คำสั่งซื้อที่เหลือจะถูกยกเลิก

Return – ประยุกต์ใช้เพื่อกับคำสั่งซื้อ limit และ stop-limit และคำสั่งซื้อในตลาด นโยบายนี้อนุญาตให้ประมวลผลปริมาณที่เหลือของคำสั่งซื้อที่เติมเต็มบางส่วนต่อไปแทนที่จะยกเลิก

ความลึกของตลาด

ฟังก์ชันนี้บน MT5 จะแสดงการเสนอราคาและขอราคา ของตราสารทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงในราคาที่ใกล้เคียงที่สุดกับสิ่งที่ตลาดเสนอ โดยพิจารณาจากปริมาณเฉพาะ

DOM ในตลาด ที่ไม่ต้องสั่งโดยเคาน์เตอร์ (OTC) นั้นแตกต่างจากตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากในอดีตอ้างอิงจากราคาซื้อขายจากโบรกเกอร์ ในขณะที่ตลาดหลังนี้ มีราคาและปริมาณการสั่งซื้อจริง

Time & Sales

MT5 มีความสามารถในการรับข้อมูลจากเวลาและยอดขายที่เกิดขึ้นใน Exchange market.

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถดูรายละเอียดรายการเรียลไทม์ของธุรกรรมแลกเปลี่ยนทั้งหมด ทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นของกิจกรรมการซื้อขายต่างๆในระดับราคาที่แตกต่างกัน นี่คือที่ที่คุณสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมของผู้ซื้อหรือผู้ขายที่เพิ่มขึ้น

รายการใน Time & Sales ครอบคลุมข้อมูลเชิงลึกที่หมุนเวียนในแต่ละธุรกรรม รวมถึง เวลา ราคา ทิศทาง และปริมาณ

ปฏิทินเศรษฐกิจ

หากคุณซื้อขายโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ฟีเจอร์บน MT5 จะเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับคุณ นี่คือที่ที่คุณสามารถค้นหาข่าวสารและแหล่งข้อมูลจากข่าวเศรษฐกิจจากตลาดการเงินของประเทศสำคัญ หรือดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคต่างๆ เมื่อพิจารณาว่าตัวชี้วัดดังกล่าวมีผลต่อราคาของตราสารทางการเงินอย่างไร การสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ได้รับการดูแลจัดการเหล่านี้ในที่เดียว จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการเทรด

โอนเงินระหว่างบัญชี

MT5 มีฟังก์ชั่นการจัดการบัญชีที่หลากหลาย รวมถึงความสามารถในการโอนเงินระหว่างบัญชีภายในเซิร์ฟเวอร์การเทรดเดียวกัน คุณยังสามารถโอนเงินระหว่างแพลตฟอร์มได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ นั่นคือหากคุณมีทั้งบัญชี MT4 และ MT5 คุณสามารถโอนเงินของคุณจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้

MQL5.community แชทในตัว

ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถสนทนากับนักเทรดรายอื่นได้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม MT5

Netting

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5 ได้รับการออกแบบเริ่มแรกด้วยการใช้ระบบบัญชี netting โดยอนุญาตให้นักเทรด มีการเปิดสถานะของตราสารทางการเงินเพียงรายการเดียว

Exchange Trading

MT5 รองรับการซื้อขายสำหรับตลาด Exchanges ทำให้คุณสามารถซื้อขาย พันธบัตร ฟิวเจอร์ส ออปชั่น และ หุ้นได้

นวัตกรรมที่สำคัญที่สุดบน MT5 คืออะไร?

โดยสรุปแล้วแพลตฟอร์ม MT5 มาพร้อมกับนวัตกรรมมากมาย:

• อนุญาตให้มีคำสั่ง hedging และ netting positions
  
• อนุญาตให้ซื้อขายในตลาดการเงินที่หลากหลาย
  
• แสดงข้อมูลความลึกของตลาดแบบเรียลไทม์
  
• รวมปฏิทินเศรษฐกิจในตัว
  
•  มาพร้อมกับตัวบ่งชี้ ที่ไม่ซ้ำกันเพิ่มเติม และแผนภูมิและไทม์เฟรมที่อัปเดต
  

อย่างไรก็ตามนวัตกรรมที่สำคัญคือ กฎ NO FIFO ที่โบรกเกอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา
ต้องปฏิบัติตาม สิ่งนี้ต้องการให้ระบบจัดการแบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO)

ตัวอย่างเช่น หากนักเทรด ทำการ Long 1 ล็อต ของคู่สกุลเงิน EUR / USD และทำการซื้อขายเพิ่มเติมโดยใช้พารามิเตอร์เดียวกัน การซื้อขายแรกจะต้องปิดก่อนก่อนตัวที่สอง

สิ่งที่ Fullerton Markets เสนอให้นักเทรดก้าวไปข้างหน้า

Fullerton Markets กำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์ม MT5 เพื่อให้นักเทรดมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในกิจกรรมการซื้อขายของพวกเขา ในขณะที่ให้ความมั่นใจในการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ MT4 จะถูกยกเลิกในไม่ช้าอย่างเร็วที่สุดในขณะนี้ นักเทรดรายเดิมและรายใหม่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเมื่อ MT5 กลายเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่คุณต้องเลือก

ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งนี้ Fullerton Markets:

• กำลังรวม MT5เข้ามาไว้ใน Fullerton Suite เดียวกัน ที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม MT4 ปัจจุบัน ด้วยวิธีนี้นักเทรดสามารถเปิดบัญชีเทรด ฝากเงิน และเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง ได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียว
  
• อนุญาตให้นักเทรดโอนเงินระหว่างแพลตฟอร์มได้
  
• ช่วยให้นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ของ MT5:
  
  • อัปเดตไทม์เฟรม
    
  • ประเภทคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการเพิ่มเติม
    
  • ตัวชี้วัด และวัตถุช่วยในวิเคราะห์เพิ่มเติม
    
  • ปฏิทินเศรษฐกิจ
    
  • หน้าจอแก้ไขคำสั่งซื้อ
    

ดูคำถามที่พบบ่อยที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MT5 ของ Fullerton Market

คุณรู้สึกตื่นเต้นที่จะทดสอบฟีเจอร์และความสามารถของ MT5 หรือไม่? เราก็เช่นกัน MT5 อาจเป็นแพลตฟอร์มใหม่ในกลุ่ม แต่มีนวัตกรรมที่ MT4 ขาดอยู่ การเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มใหม่สามารถเปิดโอกาสในการทำกำไรและรับรายได้มากขึ้น

พร้อมที่จะสร้างและขยายความมั่งคั่งของคุณในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือยัง? ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าที่นี่ กับเรา! เริ่มต้นการซื้อขายกับ Fullerton Markets วันนี้โดยการเปิดบัญชีเทรด: