ความกังวลเกี่ยวกับการปรับตัวของตลาดที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หรือว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะถดถอยหรือไม่? แต่ข่าวดีบางส่วนก็ยังมี: สัญญาณล่าสุดของ Federal Reserve ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่ลดลง แบบดิ่งวูบอย่างที่คาดหวังไว้ อาจสร้างความวุ่นวายให้กับนักลุงทุนในหุ้นแบบดั้งเดิม แต่อาจเปิดโอกาสให้กับผู้อื่นได้
ความวุ่นวายในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ Fed ได้ประกาศอย่างเซอร์ไพรซ์ตลาด ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่ลดลงมากอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ การปรับเปลี่ยนนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เห็นเมื่อมองแวบแรก เจ้าหน้าที่บางคนทั้งในการคาดการณ์ และแสดงความคิดเห็น ได้บอกเป็นนัยว่าอัตราดอกเบี้ยอาจไม่เพียงแต่จะคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นระยะเวลานานเท่านั้น แต่ยังอาจคงอยู่สูงขึ้นอย่างถาวรอีกด้วย ในแง่เทคนิค อัตรานี้เกี่ยวข้องกับ " neutral rate " ซึ่งเป็นอัตราที่ช่วยรักษาเสถียรภาพด้านอัตราเงินเฟ้อ และการว่างงานในระยะยาว ซึ่งได้เพิ่มขึ้นมาถึงระดับนี้
พัฒนาการนี้ มีผลกระทบต่อนักลงทุน ธุรกิจ และครัวเรือนที่วางแผนเชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยมานานกว่าทศวรรษหรือมากกว่านั้น สิ่งนี้อาจอธิบายการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว และความท้าทายที่ตลาดหุ้นต้องเผชิญ
S&P 500 และ Nasdaq Composite ที่เน้นภาคเทคโนโลยีได้ปรับตัวลดลง 2.7% และ 3.5% ตามลำดับในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และเป็นสัปดาห์ที่สามติดลบติดต่อกันแล้ว ในขณะเดียวกัน ดาวโจนส์ลดลง 1.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ข้อดีก็คือเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาด และความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ โดยปกติแล้ว ราคาหุ้นจะตกลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งมักกระตุ้นให้เกิดความตื่นตระหนกในการขายในหมู่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่มีความสามารถในการระบุหุ้น หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่พร้อมสำหรับการฟื้นตัวในอนาคต สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูก และถือไว้จนกว่าตลาดจะฟื้นตัว
นอกจากนี้ Short Selling ยังมอบโอกาสให้กับเทรดเดอร์อีกด้วย กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเดิมพันกับหุ้น หรือสินทรัพย์ที่คาดว่าจะมีมูลค่าลดลงและสามารถทำกำไรได้สูง เมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง
การวิเคราะห์โอกาสในการ Short-Selling ในหุ้นหลัก
Intel: ปัจจุบัน Intel ซื้อขายที่ระดับพรีเมี่ยม 86% เมื่อเทียบกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้าเฉลี่ยห้าปี มีความโดดเด่นไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีราคาแพงที่สุดในตลาดที่กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินไปที่สุดในดัชนี Dow Jones ด้วย โดยราคาหุ้นมีการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันอย่างมีนัยสำคัญ
Apple: แม้ว่าระยะเวลารอคอยสินค้าและข้อมูลการสั่งซื้อล่วงหน้าในจีนอาจดูเหมือนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำหรับความต้องการใน iPhone แต่ขอแนะนำให้มีมองในแง่ดีด้วยความระมัดระวัง การตรวจสอบล่าสุดในจีนบ่งชี้ถึงวัฏจักรที่ท้าทายข้างหน้ารออยู่ โดยคำสั่งซื้อโดยรวมลดลง 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และปริมาณการสั่งซื้อรวมรุ่น Pro ด้วย ลดลง 4%
Tesla: บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ไฟฟ้าอาจเผชิญกับการลดราคาได้อีกในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ซึ่งอาจส่งผลให้อัตรากำไรลดลง และส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลง พัฒนาการดังกล่าวอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและราคาหุ้นของบริษัทด้วย
ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ การเทรดเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการ Short Selling และการระบุหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินไปได้ สามารถให้โอกาสแก่นักลงทุนในการสำรวจภูมิทัศน์ของตลาดที่กำลังมีพัฒนาการ
Fullerton Markets Research Team
Your Committed Trading Partner
