เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นักลงทุนต่างเฝ้ารอข้อมูลดัชนี (PCE) ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อสำคัญที่ธนาคารกลางติดตามอย่างใกล้ชิด นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า Core PCE จะเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลข Core PCE มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด และอาจท้าทายความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ตลาดหุ้นอยู่บนเส้นทางที่ดูมั่นคงโดยมีหุ้นภาคเทคโนโลยีขึ้นมาเป็นจ่าฝูง

ตลอดทั้งสัปดาห์ Dow และ Nasdaq อยู่ในระหว่างการทำสถิติเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ค่าเฉลี่ยของ 30 หุ้นเพิ่มขึ้น 0.16% ในขณะที่ tech-heavy ของ Nasdaq ได้รับกำไร 0.12% เมื่อปิดตลาดในวันพฤหัสบดี ในขณะเดียวกันดัชนี S&P 500 ที่ขยายตัวกว้างขึ้นก่อนหน้า ยังคงค่อนข้างทรงตัวในกรอบ ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02% ความเคลื่อนไหวของตลาดเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการตัดสินใจของเฟดล่าสุด และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ระมัดระวังต่อสถาณการณ์ตลาดในช่วงนี้

สัญญาณการเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัว

รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 เติบโตเกินความคาดหมาย ซึ่งให้ความมั่นใจเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน GDP เพิ่มขึ้นในอัตรา 2.4% ต่อปี ซึ่งแซงหน้าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ซึ่งอยู่ที่ 2% การเร่งตัวขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากการลงทุนคงที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย รายจ่ายของรัฐบาล และการเติบโตของสินค้าคงคลัง

Meta (ชื่อเดิมคือ Facebook) ได้โพสต์ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่น่าประทับใจทีเดียว

Meta สร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนด้วยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ซึ่งออกมาเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และให้แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สดใสสำหรับช่วงเวลาปัจจุบัน บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเติบโตเป็นเลขสองหลักเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นปี 2021 การคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่สามในแง่ดีของ Meta ที่ 32 พันล้านดอลลาร์ถึง 34.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดโฆษณาดิจิทัล ซึ่งหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตของบริษัท

Intel กลับสู่ความสามารถในการทำกำไรและตั้งเป้าหมายที่ดูทะเยอทะยาน

การประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่สองของ Intel เผยให้เห็นการกลับมาทำกำไรอีครั้งหลังจากขาดทุนสองไตรมาสติดต่อกัน นอกจากนี้ บริษัทยังนำเสนอการคาดการณ์ที่แข็งแกร่งเกินการคาดการณ์ของตลาดอีกด้วย Intel ตั้งเป้าที่จะผลิตชิปให้ทัดเทียมกับ TSMC ภายในปี 2026 ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการเสนอราคาเพื่อผลิตโปรเซสเซอร์โมบายล์ล้ำสมัยให้กับบริษัทอื่นๆ แผนทะเยอทะยานนี้เรียกว่า "ห้าโหนดในสี่ปี" แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการสร้างความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีอีกครั้ง

รายได้ของ Apple มีโอกาสกลับหัว

ในขณะที่ Apple เตรียมพร้อมที่จะรายงานผลประกอบการที่กำลังจะมาถึง นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีส่วนกลับด้านของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้ รายได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีงบการเงินของ Apple คาดว่าจะเป็นไปตามคำแนะนำของบริษัทท่ให้ไว้กับนักลงทุน แต่การมองโลกในแง่ดีนั้นเกิดจากประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในด้านบริการ ท่ามกลางการคาดการณ์แบบอนุรักษ์นิยม และการฟื้นตัวตามวัฏจักรของโฆษณาดิจิทัลที่คาดการณ์ไว้ นักลงทุนจับตาดูประสิทธิภาพการทำกำไรของ Apple ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเทคโนโลยีในวงกว้างด้วย

New call-to-action

Fullerton Markets Research Team

Your Committed Trading Partner