ความเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ด้วยโอกาสในการสร้างรายได้จาก AI มากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต คาดว่าตลาด AI จะเติบโตอย่างรวดเร็ว intelligence bodies บางแห่งคาดการณ์ว่า ตลาดฮาร์ดแวร์และบริการด้าน AI ในวงกว้างจะสูงถึง 90,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025เพิ่มขึ้นจาก 36,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020
การการเพิ่มขึ้นของผูบริโภครายใหม่และการยอมรับ AI ของผู้บริโภค ทำให้พฤติกรรมทางดิจิทัลนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น รายได้จากกิจกรรมทางดิจิทัลในหลายปีนี้ คงทนมากขึ้น และการเติบโตของกระแสเงินสดอิสระทั่วทั้งอุตสาหกรรมนี้ก็มีมากขึ้นด้วย
Alphabet: คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น
Alphabet คาดการณ์ว่าจะมีนวัตกรรมระดับแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างต่อเนื่องในเครื่องมือการค้นหา YouTube และแพลตฟอร์มตัวเลือกอื่นๆ อีกด้วย และมั่นใจในการเติบโตระยะยาวของบริษัท งานด้านใช้ความละเอียดอ่อนอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการใช้ AI เป็นหลักสามารถนำไปสู่รายรับต่อปีที่เพิ่มขึ้น 10%+ สำหรับ GOOGL ($50bn+) ภายในปี 2025
นักลงทุนไม่ค่อยปลื้มนักเมื่อ Google เปิดตัว Bard โดยส่งผลให้หุ้นกูเกิ้ลปรับตัวลง 7% ในวันจัดงานเปิดตัว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของบริษัทที่ตอบสนองต่อกระแสการมาของ ChatGPT ช้าไปแล้ว Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ขอให้พนักงานทดสอบ Bard และเตือนพวกเขาว่าผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางตัวของ Google ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แรกที่ได้ออกสู่สายตาตลาด
ช่วงเวลานี้ช่างน่าตื่นเต้นอย่างน่าอึดอัด แต่เป็นสิ่งที่คาดหวัง: เทคโนโลยีพื้นฐานกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยศักยภาพมากมาย
Nvidia: แซงหน้า Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett
การปรับตัวขึ้นของ Nvidia Corp. ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความคลั่งไคล้ปัญญาประดิษฐ์ในปีนี้ ได้ผลักดันให้ผู้ผลิตชิปกลายเป็นกลุ่มหัวกะทิของ S&P 500 เฮวี่เวท ซึ่งช่วยให้นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นบิ๊กเทคฯ
หลังจากเพิ่มมูลค่าตลาดได้ประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปลายปี 2022 Nvidia ก็ได้แซงหน้า Berkshire Hathaway Inc.ของ Warren Buffett และ Tesla Inc. ขึ้นสู่ตำแหน่งที่มีน้ำหนักสูงสุดเป็นอันดับ 5 ใน stock benchmark ที่ 1.7% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ถ่วงน้ำหนัก S&P 500 มีเพียง Apple Inc., Microsoft Corp., Alphabet Inc. และ Amazon.com Inc. เท่านั้นที่มีอิทธิพลมากกว่า
การขึ้นสู่ฟากฟ้าของ Nvidia มาถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับหุ้นกลุ่มบิ๊กเทคฯ ทำให้กลุ่มมีความสดใสหลังจากการถูกเทขายในปี 2022 การให้น้ำหนัก S&P 500 ของ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Nvidia และ Tesla เพิ่มขึ้นเป็น 21% นับตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 5 ที่ประมาณ 18% ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg ถึงกระนั้นก็ยังคงห่างไกลจากระดับสูงสุดเกือบ 26% ในปลายปี 2021
Amazon: ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลกระทบของ AI ต่ออีคอมเมิร์ซ
บริษัทที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลกระทบของ AI ที่มีต่ออีคอมเมิร์ซ หุ้นของบริษัทอาจมีการอัพไซด์อีกเกือบ 10% ซึ่งขับเคลื่อนโดย AI ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและพับบริคคลาวด์ที่เติบโตเร็วขึ้น และให้ผลกำไรมากขึ้นรวมกันแล้วอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 18% ซึ่ง Amazon เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% ในปีนี้
Fullerton Markets Research Team
Your Committed Trading Partner
