ตลาดได้ขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่มีข้อมูล NFP ที่น่าเชื่อถือสูง, เข้าขาย USD / JPY หรือไม่?
การจ้างงานในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในเดือนมกราคม และค่าจ้างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปีที่ทำกำไรมากที่สุดในรอบเกือบ 9 ปี ทำให้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้เนื่องจากตลาดแรงงานมีการจ้างงานเต็มกำลัง. หุ้นสหรัฐและพันธบัตรร่วงลงหลังที่ข้อมูลประกาศออกมาในขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น.ตัวเลขการจ้างงานของ Nonfarm เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง เมื่อเดือนที่แล้วหลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคมตามข้อมูลที่ระบุไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา. อัตราการว่างงานคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ที่อัตรา 4.1% รายได้เฉลี่ยการจ้างงานรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคม เป็น 26.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งช่วยให้รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009 ซึ่งสูงขึ้นกว่า 2.7% ในเดือนธันวาคม. อย่างไรก็ตามผลกระทบจากสภาพอากาศจะต้องได้รับการพิจารณาเช่นกันเนื่องจากคนงานใช้เวลาน้อยลงในเดือนที่แล้วเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น. ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยลดลงเป็น 34.3 ชั่วโมงซึ่งสั้นที่สุดในรอบสี่เดือน.
โดยทั่วไปแล้ว รายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งได้ชี้ให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งในระบบเศรษฐกิจซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้นในปีนี้โดยเฉพาะโอกาสที่จะใช้นโยบายการเงินแบบหดตัวได้ถูกเสนอเข้าร่วมคณะกรรมการ FOMC ในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง. ขณะนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสามครั้งในปีนี้หลังจากได้ปรับขึ้นถึงสามครั้งในปี 2017.
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางแสดงความหวังว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายของธนาคารกลางในปีนี้. นักแผนนโยบายกล่าวว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งขึ้นและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่มั่นคง" จนถึงขณะนี้ตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ล่วงหน้าได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม. ราคาพันธบัตรของสหรัฐลดลงโดยมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 10 ปีซึ่งสูงที่สุดในรอบ 4 ปี. ในขณะที่นักลงทุนกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น. เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินโดยส่วนใหญ่ของ G-10 หลังจากที่ข้อมูลการจ้างงานและหุ้นสหรัฐฯร่วงลงท่ามกลางผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น. บางคนกังวลว่าแพคเกจการลดหย่อนภาษีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลล่าร์ของรัฐบาลทรัมพ์ที่ผ่านการลงมติของรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อเดือนธันวาคมซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในการแก้ไขประมวลรัษฎากรในรอบ 30 ปีอาจทำให้เศรษฐกิจที่กำลังดำเนินการอยู่เข้าถึงภาวะการเติบโตอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ร้อนระอุเกินไป หากตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งและการลดภาษียังไม่เกิดขึ้นในตลาดปัจจุบันอาจจะทำให้มีการประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจของธนาคารกลางที่คิดไว้. หลายคนกล่าวว่านโยบายของ Powell จะเป็นส่วนขยายนโยบายของYellen แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากมากเนื่องจากพวกเขาได้เข้าดำรงตำแหน่งในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน. เมื่อ Yellen เข้ารับตำแหน่ง เศรษฐกิจโลกตอนนั้นยังคงอยู่ในช่วงขาลงอยู่ ดังนั้นยุทธศาสตร์นโยบายของ Yellen จะค่อยๆยกเลิกการบริหารจัดการวิกฤตไปสู่นโยบายที่เป็นกลางมากขึ้น. แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดทุนอาจใกล้เคียงกับความร้อนระอุ Powell อาจจำเป็นต้องระมัดระวังก่อนที่จะใช้เส้นผลตอบแทนต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเงินเฟ้อที่จะมาถึงและแนวโน้มการเติบโตโดยเฉพาะผลกระทบของแพคเกจปฏิรูปด้านภาษีมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญ. จากฉากหลังของสถานการณ์ปัจจุบัน เราคิดว่าการเคลื่อนไหวที่รุนแรงไม่น่าเป็นไปได้หากกำหนดให้เส้นโค้งตอบแทนของสหรัฐฯเป็นไปอย่างราบเรียบ. หากไม่มีการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งขึ้น การใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้นจะทำให้เส้นโค้งตอบแทนของสหรัฐฯราบเรียบต่อไป และสิ่งนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงในปีหน้าหากการปฏิรูปด้านภาษีมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อและการเติบโต
ตลาดยังคงกังวลกับกระบวนการของธนาคารกลางถึงนโยบายการผ่อนคลายการซื้อพันธบัตรขนาดใหญ่ และ QE เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่มีความผันผวนต่ำในตลาดการเงิน. นโยบายการผ่อนคลายที่ไม่เหมาะสมอาจกระตุ้นให้มีการชะงักในตลาดการเงินที่ไม่อาจปฏิเสธได้.
ทางเลือกของเรา
EUR/USD – ปรับตัวลดลงเล็กน้อย.
ข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งจะผลักให้ราคาตกลงมาที่ 1.2360 ในสัปดาห์นี้
USD/JPY – ปรับตัวลงเล็กน้อย.
การขายหุ้นทั่วโลกอาจกระตุ้นความต้องการเงินเยน. USD / JPY อาจลดลงแตะระดับราคา 109 ในสัปดาห์นี้
XAU/USD (ทองคำ) – ลดลงเล็กน้อย
เราคาดการณ์ว่าราคาจะปรับลดลงที่ 1320 ในสัปดาห์นี้
ทีมวิจัยฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ต
คู่ค้าที่ทุ่มเทของคุณ
