การระบาดของโคโรน่าไวรัส เหนี่ยวนำให้เกิดการถดถอยทางเษรษฐกิจ ซึ่งเราไม่อาจทราบได้เลยว่าจะจบลงเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม เรายังคงควรโฟกัสที่การหารายได้ค่ะ เพราะไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวช้าลง แต่ก็ยังคงมีโอกาสในการทำเงินได้เสมอ
แต่คำถามก็คือ แล้วเราทำอะไรได้บ้างล่ะ?
เรียนรู้วิธีการทำกำไรจากตลาดหมี (ตลาดขาลง)
สภาวะตลาดเข้าสู่ตลาดหมีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม เมื่อดัชนีดาวโจนส์ปิดตัวลงกว่า 5% และลดลง 20% จากในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีกทั้งราคาหลักทรัพย์ยังปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากความรู้สึกเชิงลบ และมุมมองที่ขาดความมั่นใจต่อวิกฤต COVID-19
หากพอร์ตการลงทุนของคุณปรับลดลง นั่นเป็นไปตามธรรมชาติของความตกต่ำทางเศรษฐกิจค่ะ คำถามคือ แล้วเราควรจะเริ่มขายหุ้น แล้วไปลงทุนกับพันธบัตรรัฐบาลแทนดีหรือไม่?
นอกจากนี้ สิ่งที่เราจะต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ ก็คือเหตุการณ์ตลาดถดถอยในครั้งนี้นั้นเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งแตกต่างจากการตกต่ำที่เกิดจากนโยบายทางการเงิน ซึ่งนั่นหมายความว่า มันไม่มีมาตรวัดที่แน่นอนในการคาดการณ์ว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวเมื่อไหร่นั่นเองค่ะ
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจ เราจะต้องคิดไตร่ตรองในระยะยาว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายใหญ่หลวงที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบเพียงพอของเรานั่นเองค่ะ
หลีกเลี่ยง "การขายอย่างตื่นตูม"
ธรรมชาติของตลาดคือมันมีการเคลื่อนไหวเสมอค่ะ แม้ในช่วงเวลาวิกฤติ ตลาดจะเข้าสู่ขาลง ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมาอย่างน่าตกใจก็ตาม แต่จำไว้ว่าวันหนึ่งตลาดจะฟื้นตัว ดังนั้น เราจึงไม่ควรตื่นตกใจจนเกินเหตุแล้วตัดสินใจเทขายหุ้นทั้งหมดไปด้วยความตื่นตูม
แน่นอนว่าเราเข้าใจได้ว่การแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น สร้างความตื่นตระหนกเป็นวงกว้าง และสิ่งนี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
แต่ไม่ใช่ว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า "จงหวาดกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และใคร่รู้ในยามเมื่อคนอื่นหวาดกลัว" หรอกหรือ? เวลาที่จะโลภ
เพราะเมื่อวิกฤตินี้สิ้นสุดลง คุณจะเห็นราคาหุ้นบางตัวที่จะสร้างสถิติกำไรใหม่ในรอบหลายสิบปี และนี่ก็คือโอกาสที่เราจะได้เก็บเกี่ยวผลกำไรจากเมล็ดที่เราหว่านค่ะ
ยึดแผนการลงทุนระยะยาว
การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสไม่ใช่การระบาดใหญ่ครั้งแรกที่ทำให้ตลาดสั่นคลอน และก็จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกันค่ะ ดังนั้น การตัดสินใจขายหุ้นของคุณตอนนี้ อาจจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่คุณเคยทำก็ได้
ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุด คือการยึดมั่นในแผนระยะยาว และรอให้ตลาดฟื้นตัว
นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ไว้ว่า ราคาหุ้นอาจจะเคลื่อนไหวในเชิงบวกในช่วงปลายฤดูร้อนนี้ และหากไม่เกิดขึ้น และอัตราดอกเบี้ยแตะที่ระดับศูนย์ หรือใกล้เคียง เราก็สามารถเพิ่มการลงทุนในพอร์ตได้เสมอ
ซื้อหุ้น
ใช้ช่วงตลาดหมีให้เป็นประโยชน์ โดยการมองหาหุ้นที่คุณชอบ และดูมีความมั่นคงเพื่อที่จะซื้อมันค่ะ เนื่องจากในช่วงเวลาขาลงแบบนี้ ราคาของหุ้นจะลดต่ำลงนั่นเอง
เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงฟื้นตัวของตลาด นี่คือกลุ่มหุ้นที่ควรลงทุนค่ะ:
- บริษัทที่มีงบดุลแข็งแกร่ง
- ธุรกิจที่แสดงให้เห็นว่าสามารถฝ่าฟันวิกฤตินี้ได้ แทนที่จะถูกบีบคั้นโดยมัน
- กลุ่มยานพาหนะที่คุณมีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้
อย่างไรก็ตาม แม้หุ้นหลาย ๆ ตัวจะน่าสนใจแค่ไหน แต่เราก็ไม่ควรซื้อจนเกินตัวเช่นเดียวกันค่ะ ควรจะดูความเหมาะสมกับเงินทุนของเรา และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
หมวดสินทรัพย์ที่ให้โอกาสในการซื้อขายในตลาดที่เคลื่อนไหวช้า
นักลงทุนที่มีประสบการณ์ รู้ว่าการชะลอตัวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวงจรการเคลื่อนไหวของตลาดค่ะ โดยส่วนใหญ่ นักลงทุนมือเก๋าจะรอหรือมองหาโอกาสท่ามกลางวิกฤต และคุณก็ควรทำเช่นเดียวกัน
มาเรียนรู้เคล็ดลับของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ว่าพวกเขานั้นรักษาความสงบในการลงทุนท่ามกลางมรสุมได้อย่างไร
การลงทุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบค่ะ และบางอย่างก็เป็นที่รู้จักกันดีว่าสามารถทำกำได้ดีในระบบเศรษฐกิจแบบตลาดหมี (ตลาดขาลง) และคุณควรให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น เพื่อรักษาพอร์ตการลงทุนของคุณให้แข็งแกร่งไม่ว่าตลาดจะเกิดอะไรขึ้น
- พันธบัตรรัฐบาล - การลงทุนที่มีมาช้านาน และไม่มีความเสี่ยงในการสูญเสีย ด้วยเหตุนี้ ท่ามกลางระบบเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ให้นึกถึงพันธบัตรระยะสั้น และหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมไปถึงพันธบัตรตลาดเกิดใหม่
- Managed Futures - เฮดจ์ฟันประเภทนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เราจะเห็นได้ว่าสามารถให้ผลตอบแทนได้แม้ท่ามกลางวิกฤติ ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งการลงทุนความเสี่ยงต่ำที่น่าสนใจค่ะ
- ทองคำ - สินทรัพย์ทางกายภาพที่คุณสามารถซื้อ และขายได้อย่างมีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe Haven อีกด้วย
- Utility Stocks - หุ้นกลุ่มอัตถประโยชน์นี้นั้นปลอดภัย และมีเสถียรภาพสูงภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เพราะบริษัทของหุ้นกลุ่มนี้จะดำเนินการแบบเชิงป้องกัน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มสินค้าและบริการที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้ ทำให้ผลกำไรของบริษัทจะค่อนข้างคงที่นั่นเอง
- สิ่งที่จำเป็นต่อผู้บริโภค - ลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนจะต้องใช้ทุกวัน เช่น กระดาษชำระ กาแฟ เป็นต้น
- การดูแลสุขภาพ - การลงทุนในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพเป็นสิ่งที่ความเสี่ยงต่ำตลอดค่ะ อย่างการที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ขึ้น ผู้คนก็ให้ความใส่ใจในการดูแลรักษาสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้นั่นเองค่ะ
- อสังหาริมทรัพย์ - กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง และสูงที่สุดในระยะยาว นี่คือเหตุผลที่นักลงทุนจำนวนมากเชื่อมั่นในความปลอดภัยที่อสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ให้หลีกเลี่ยงการค้าปลีก และ REITs ค่ะ
- ฟอเร็กซ์ - ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย การซื้อขายสกุลเงินในช่วงวิกฤติโลกเป็นสิ่งที่คุณควรทำความรู้จักค่ะ เพราะฟอเร็กซ์เป็นการลงทุนที่ดีในหลาย ๆ เหตุผล หนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนได้ทั้งสองขา ไม่ว่าจะเป็นตลาดขาขึ้น และขาลงนั่นเองค่ะ
ฟอเร็กซ์ เป็นสิ่งที่จะนำพาเราออกไปจากภาวะถดถอยได้อย่างไร?
ภาวะถดถอยจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสนั้น ถือว่ามีผลกระทบอย่างมาก และเลวร้ายที่สุดต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะสร้างความหายนะให้กับเศรษฐกิจโลกได้ขนาดไหน และนานเท่าไหร่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีการลงทุนประเภทหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ในท่ามกลางวิกฤตนี้ นั่นก็คือฟอเร็กซ์นั่นเองค่ะ
โดยปกติแล้ว ตลาดฟอเร็กซ์จะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอย ดังนั้น ตลาดจะไม่พังง่ายเหมือนกับการลงทุนที่คล้ายอย่างหุ้นค่ะ แต่คำถามก็คือ แล้วมันทำได้อย่างไรล่ะ?
อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน มักจะได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางของประเทศ และความต้องการทางการค้าระหว่างประเทศค่ะ ในทางกลับกัน ภาวะถดถอยได้รับผลกระทบจากการว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของ GDP รวมถึงตัวชี้วัดและสัญญาณบ่งชี้ที่สำคัญอื่น ๆ
ดังนั้น หากธนาคารกลางพยายามที่จะปรับค่าของสกุลเงินให้อ่อนลง เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ฟอเร็กซ์ก็จะปลอดภัยจากการชะลอตัวนี้ เนื่องจากสกุลเงินจะมีการซื้อขายเป็นคู่เสมอ เมื่อสกุลเงินหนึ่งอ่อนค่าเงินอีกสกุลหนึ่งก็แข็งค่าขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่นการจับคู่ USD / JPY ผู้ค้ากำลังขาย หรือตัดค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินได้อ่อนตัวลงอย่างช้า ๆ ในช่วงวิกฤตโคโรน่าไวรัส ในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นมีเสถียรภาพมากกว่า ในเวลานี้ แม้ตลาดจะถดถอย แต่เราก็ยังสามารถทำกำไรจากการเทรดคู่สกุลเงินนี้ได้นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ฟอเร็กซ์ยังเป็นการลงทุนที่เทรดกันทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ เราจึงสามารถซื้อ และขายสกุลเงิน พร้อมรับผลกำไรได้ตลอดเวลาค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น ฟอเร็กซ์ยังเป็นการลงทุนที่มีข้อดี และประโยชน์อีกมากมาย โดยสามารถดูข้อมูลได้จากทางอินโฟกราฟฟิคนี้เลยค่ะ
เทรดสกุลเงินตอนนี้: ทำไมเราถึงต้องเข้าสู่สนามการเทรดท่ามกลางการระบาดของโคโรน่าไวรัส
- เพราะตอนนี้เราติดอยู่ที่บ้าน
การเทรดเป็นกิจกรรมออนไลน์ที่คุณสามารถทำได้ในระหว่างการล็อคดาวน์ ตราบใดที่คุณสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ คุณก็สามารถเทรดและทำกำไรได้ค่ะ
หรือหากว่าคุณไม่ได้ถูกล็อคดาวน์อยู่บ้าน ก็สามารถเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ได้เช่นกัน เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์นั้นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เราจึงสามารถใช้เวลาว่างเทรดฟอเร็กซ์เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองค่ะ
- ใช้ทุนในการเริ่มต่ำ
การจะเริ่มเทรดฟอเร็กซ์นั้นไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพียงใช้เวลาไม่นานในการเปิดบัญชี และเริ่มทำการเทรด โดยที่ Fullerton Markets นั้น ในการจะเปิดบัญชีเทรดนั้น ต้องการเงินฝากขั้นต่ำเพียง 100 USD หรือประมาณ 3000 บาทเท่านั้นค่ะ
- มีหลายเครื่องมือการเทรดให้ใช้
แม้คุณจะไม่มีความรู้ด้านการลงทุนก็ตาม ก็สามารถเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ได้ เนื่องจากมีเครื่องมือหลากหลายอย่างให้เลือกใช้ เช่นการทำก๊อปปี้เทรด ที่เราสามารถเทรดตามผู้เชี่ยวชาญได้นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปิดบัญชีทดลองเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อม และการเทรดฟอเร็กซ์แบบจริง ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินจริงได้ ด้วยการเปิดบัญชีทดลองค่ะ โดยในบัญชีทดลองจะเหมือนกับการเทรดจริงทุกประการ ยกเว้นเพียงแต่เราไม่ต้องใช้เงินจริงในการเทรดนั่นเอง
อย่างที่คุณเห็นค่ะ ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ ดังนั้นมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กับการลงทุนในสนามการเทรดดีกว่า แล้วคุณจะพบว่า ตลาดขาลงนั้นไม่ได้ยาก หรือน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ
พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับความมั่งคั่งของคุณด้วยเครื่องมือที่สามารถทำกำได้ได้ทั้งในตลาดขาขึ้น และขาลงอย่างฟอเร็กซ์แล้วหรือยัง? เริ่มเทรดไปกับเราได้แล้ววันนี้! เปิดบัญชีกับ Fullerton Markets ได้ที่นี่