หลังแถลงรายงานการจ้างงานสหรัฐทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ข้อมูลที่แข็งแกร่งมากขึ้นของสหรัฐอเมริกาพร้อมกับความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นเรื่องความเสี่ยง ควรซื้อ USD / JPYหรือไม่?

รายงานการจ้างงานสหรัฐมีท่าทีการสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ 

รายงานการจ้างงานมีความแข็งแกร่งเหนือความความหมาย  ขึ้นอยู่กับความคาดหวังที่กำหนดโดยประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่ง ทวีตผ่านทวิตเตอร์ และแข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนนี้ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น 223k ในเดือน พฤษภาคม เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ 190k อัตราการว่างงานอยู่ที่ 3.8 %เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ 3.9% รายได้เฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.3%  เดือน / เดือน จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 0.1% เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 0.2% 

ดัชนี MSCIที่รวมหุ้นจีนเอาไว้คือข้อมูลที่สำคัญ 

MSCI คือข้อมูลดัชนีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสินทรัพย์ประมาณ 12 ล้านล้านเหรียญ จากดัชนีอ้างอิงของผลิตภัณฑ์ บางกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน แผนการเกษียณอายุระหว่างประเทศและ ประกันชีวิตตามความต้อง ส่งผลต่อดัชนี MSCI ที่ต้องซื้อหุ้นจำนวนมากที่เพิ่มเข้ามา  หลังจากที่เงินทุนไหลเข้าประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป้าหมายที่ร่วมกันส่งให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดหุ้น ดัชนี MSCI ได้แสดงให้เห็นว่า การรวมกันครั้งแรกคาดว่าจะมีตัวเลขรวม หนึ่งหมื่นเจ็ดพันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นเป็น สามหมื่นห้าพันล้านเหรียญในปีต่อ ๆ ไป กระแสเงินทุนไหลเข้าดังกล่าวน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายของหุ้นในหนึ่งวัน อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นการยกเครื่องตลาดเงินทุนของจีนได้เรื่อย ๆ และพัฒนาบรรยากาศการลงทุนให้ดียิ่งขึ้นกว่าก่อน อย่างไรก็ตามการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีรวมดัชนีจาก 5% เป็นการรวมไว้อย่างสมบูรณ์อาจเพิ่มการถ่วงดุลไว้ได้ถึง 20 เท่า  คิดเป็น 15% ของดัชนีเกิดขึ้นใหม่ในตลาด จากเดิม 0.73% อย่างไรก็ตามอาจใช้เวลา 5-10 ปีที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ 

                    ประการแรกคือ การจัดการและมองหาวิธีการกระจายความเสี่ยง ดัชนีของจีนมีโอกาสที่ดี ดัชนี S & P 500 เทียบกับดัชนีของเซี่ยงไฮ้ มีเพียง 0.4 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ในขณะที่ความสัมพันธ์กับหุ้นฮ่องกงเกือบถึง 0.8 ในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีภาคพิเศษมากมายในจีนอีกด้วย นักลงทุนต่างชาติอาจพบว่ามันยากที่จะเข้าถึงในตลาด เช่นเหล้าขาวและยาจีนโบราณ ใช้ กุ้ยโจว เหมาไถ เป็นตัวอย่างราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 130% นับจากช่วงสิ้นปี 2016

 ประการที่สอง ตลาดหุ้นมีไว้ให้กับนักลงทุนที่มองหาโอกาสแบบอัลฟา นักลงทุนรายย่อยคิดเป็นประมาณร้อยละ 85-90 ของหุ้นในประเทศ สูงกว่าดัชนีหลักของโลก ซึ่งขาดความรู้ทางการเงินและเศรษฐกิจที่ลึกซึ้ง นักลงทุนหลายประเภทที่เลือกหุ้นจากข่าวลือ ข่าวที่เผยแพร่ผ่านความรู้สึก แทนการมองไปที่ บริษัท และปัจจัยพื้นฐานด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ 

การให้ราคาผิดอย่างมากหมายถึงมีโอกาสเพียงพอสำหรับนักลงทุนต่างชาติในการสร้างอัลฟา ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าดัชนีมาตรฐาน (หลอกกินเม่า)

                    จีนยังมีหลายสิ่งต้องทำก่อนที่ดัชนี MSCI จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ในเดือนเมษายน จีนเพิ่มช่องว่างการซื้อขายข้ามพรมแดนระหว่างฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนเป็นครั้งที่สี่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในโปรแกรมการเชื่อมต่อหุ้นของจีน MSCI ยินดีกับความเคลื่อนไหวนี้ โควต้าของการขยายตัวจะช่วยให้ MSCI ปรับน้ำหนักของหุ้น A ในอนาคตจาก 5% แต่ข้อ จำกัด บางอย่างยังคงมีอยู่เช่นข้อ จำกัดที่ยังคงมีอยู่ ยกตัวอย่างเช่น 10 เปอร์เซ็นต์ของการเคลื่อนตัว ที่ทำให้เกิดความผันผวนของการซื้อขาย เช่นเดียวกับข้อกำหนดของการครอบครองโดยต่างประเทศ

 ขณะเดียวกัน การซื้อหุ้นจำนวนมากจากนักลงทุนต่างชาติ ไม่มีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบสำหรับหยวน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจัดให้มี หยวนทั้งในและนอกประเทศจีนในระดับใกล้ชิดและทุกช่วงเวลา เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับผู้ที่ซื้อสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินหยวน

ทางเลือกของเรา

 AUD/USD – ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

จีนจะรวมการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA ไว้ในหมวดหมู่หลักของ MLF อาจเพิ่มกิจกรรมภายในประเทศ ซึงข่าวดังกล่าวอาจกด AUD / USD จะลงมาที่ 0.7690

USD/JPY – ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
เราคาดว่าคู่นี้จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 110 ในท่ามกลางความเชื่อมั่นเรื่องความเสี่ยงที่ดีขึ้นและข้อมูลของสหรัฐที่แข็งแกร่ง

XAU/USD (ทองคำ) –

ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เราคาดว่าราคาจะปรับตัวลงสู่ 1286 ในสัปดาห์นี้

ขอแสดงความนับถือ,
Fullerton Markets Team