ตลาดจะเริ่มประเมินความคืบหน้าของการเปิดเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งอาจเชิญชวนต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ควร BUY คุ่สกุลเงิน USD / JPY ในสัปดาห์นี้สัปดาห์นี้หรือไม่ ?
การหมุนครั้งใหญ่ในตลาดหุ้นที่เป็นรอบวัฏจักร เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร small caps และสายการบิน ได้หยุดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่มันอาจเป็นรูปแบบที่ครอบงำการซื้อขายอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนจะประเมินความคืบหน้าของการเปิดทางเศรษฐกิจใหม่ เทียบกับกระแสใหม่สำหรับตลาด. นอกจากรายงานการจ้างงานแล้ว ยังมีการรายงานตัวเลขข้อมูลการผลิตจาก ISM ที่สำคัญในวันจันทร์ และยอดขายรถยนต์สำหรับเดือนพฤษภาคม
ตลาดหุ้นได้มีการปรับตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ และอ่อนแอในข้อมูลทางเศรษฐกิจ แต่รายงานการจ้างงานเดือนพฤษภาคมจะยังคงเป็นที่สนใจที่สำคัญในวันศุกร์นี้ ตลาดคาดว่าจะแสดงการสูญเสียตำแหน่งงานที่น่าตกใจอีกครั้ง คราวนี้คาดกาณ์ที่ประมาณ 8.5 ล้าน หลังจากที่ตำแหน่งงานหายไป 20.5 ล้านในเดือนเมษายน อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 19.8% จาก 14.7% ในเดือนเมษายน
ความสัมพันธ์ที่หลุดรุ่ยระหว่างสหรัฐฯกับจีน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงกดดันเชิงลบต่อตลาด และนักเทรดคาดการณ์ว่าความเครียดจะยังคงเป็นปัญหาต่อไป ตลาดจะยังโดนฉุดลากด้วยสงครามต่อไป เมื่อนักลงทุนเทเข้ามาในกลุ่มหุ้น value names เมื่อเทียบกับกลุ่มหุ้นที่ชื่อมีการเติบโตในกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการค้าขายที่บ้าน
เราเห็นสิ่งนี้มาก่อน เมื่อตลาดปิดตัวลงในเดือนมีนาคม ตลาดพยายามบอกว่าเราต้องการอะไรตอนนี้ เราต้องการอะไรเมื่อสิ่งเหล่านี้จบลง และหุ้นกลุ่มการดูแลสุขภาพและยาเริ่มได้รับการเสนอราคาที่ดีมากขึ้น ในอีกด้านหนึ่ง โซเชียลมีเดียและ บริษัทเทคโนโลยี ต้องเผชิญกับกระแสแรงสองทางและนั่นอาจขัดขวางตลาดโดยรวมได้เช่นกัน เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้นำในการถีบตัวออกจากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทรัมป์ได้ออกคำสั่งให้ฝ่ายบริหาร ดำเนินการที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อจำกัดการคุ้มครองตามกฎหมายของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่เขามีความเห็นที่ต่างกันกับ Twitter ดังนั้นจึงมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น ต่อบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีการทับซ้อนกันของเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในแง่ของการเปิดเผยของจีน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ชะลอตัวลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่พวกเขายังคงเป็นผู้นำในระดับสูงสุดจนถึงปัจจุบัน โดยมีกำไร 20% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขามีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 6% ของหุ้นกลุ่มด้านการเงิน และเพิ่มขึ้น 5% ในภาคอุตสาหกรรม เมื่อกลุ่มเทคโนโลยีชะลอตัวลง Nasdaq ก็เพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งในสามเท่าของดาวโจนส์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยเฉลี่ยแล้วตลาดจะอ่อนแอในระยะกลาง เมื่อคุณมีผลประกอบการที่ดี หมายถึงเป็นทั้งในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอในระยะกลาง ในระยะยาวให้คุณกลับไปที่ความคิดที่ว่า การหมุนเวียนเข้าสู่หุ้นกลุ่มการเงินจะเป็นไปในทางบวก S&P 500 อาจเข้ามาใกล้จุดสูงสุดในระยะอันใกล้นี้ หลังจากที่ทะลุผ่าน 3,000 จุด ซึ่งเป็นจุดสำคัญทางจิตวิทยา นอกจากนี้ยังทะลุผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งเป็นระดับทางเทคนิคที่จับตามองอย่างกว้างขวาง นักลงทุนบางคนเห็นสัญญาณซื้อเมื่อ S&P ปรับตัวสูงกว่าตัวบ่งชี้โมเมนตัม ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับปิดเฉลี่ยของดัชนีในช่วง 200 วันที่ผ่านมา
หุ้นที่มีปรับตัวขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังมีความอ่อนไหวต่อการเปิดอีกครั้งของเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นตัวในกิจกรรมปกติทางเศรษฐกิจ มีคำถามว่ากลุ่มการจราจรทางอากาศ หรือการเข้าพักของโรงแรม จะสามารถฟื้นได้เมื่อไหร่ อาจจะจนกว่าจะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์อย่างแท้จริงเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัส หุ้นเหล่านี้จะเป็นเรื่องของการถกประเด็นที่เข้มข้นเป็นเวลาหลายเดือน เราไม่คิดว่าเราจะรู้คำตอบได้ จนกว่าเราจะเห็นว่าการลดลงของการแพร่ระบาดของไวรัส ขึ้นอยู่กับการเปิดเศรษฐกิจรอบใหม่ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีน
ทางเลือกของเรา
EUR/USD –เป็นขาขึ้น
คู่นี้อาจปรับตัวขึ้นถึง 1.1140 ในสัปดาห์นี้
USD/JPY – เป็นขาขึ้น
คู่นี้อาจปรับตัวขึ้นสู่ 108.20
XAU/USD (Gold) –เป็นขาลง
เราคาดว่าราคาอาจปรับตัวลงสู่ 1710 ในสัปดาห์นี้
U30USD (Dow) –เป็นขาขึ้น
ดัชนีนี้ อาจรอาจปรับตัวขึ้นสู่ 25660 ในสัปดาห์นี้
ทีมวิจัยฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์
คู่ค้าที่ทุ่มเทของคุณ
