การปรับตัวสูงขึ้นของค่าแรง โดยมาจากปัจจัยของข้อมูลการจ้างงานในเดือนธันวาคม ถึงเวลาขาย EUR / USD หรือยัง
การมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปอาจบ่งบอกว่าเงินดอลลาร์ได้รับการประเมินราคาต่ำหากตลาดทั้งหมดอยู่ในช่วงขาลง
ดูเหมือนว่าตลาดเล็งเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง คำแนะนำมาจากทั้งทางสัญญาณพื้นฐานและทางเทคนิค อย่างไรก็ตามหลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า "ความเป็นจริงยังเกิดขึ้นตรงกันข้ามกับสมมติฐานได้"
ก่อนที่จะมาพูดถึงเรื่องของดอลลาร์ เรามาดูที่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมากันก่อน
1) สกุลเงินหยวนของจีนคาดว่าจะอ่อนค่าในปี 2017 แต่กลับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์กว่า 6.7%
ตอนสิ้นปี 2016 ความต้องการซื้อดอลลาร์เพิ่มมากขึ้นในเมืองสำคัญๆของประเทศจีน เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนของ USD/CNY ใกล้ 7 สวนทางกับภาพรวม ความเห็นส่วนใหญ่ของตลาดคาดการณ์ว่าเงินหยวนจะลดค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐแล้วเหนืออยู่ 7 จุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปี 2017 อย่างไรก็ตามสกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเกือบ 7% เทียบกับดอลลาร์ในที่สุด และแข็งค่าที่เป็นครั้งแรกเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2013 ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนั้น ทิศทางของเงินหยวนในปีที่ผ่านมาคาดการณ์ได้ยากยิ่ง ตามที่เห็นกราฟด้านล่าง การคาดการณ์ของสกุลเงินหยวนว่าจะอ่อนค่ากว่าการเคลื่อนตัวตามจริงที่เกิดขึ้นตลอดปี
เส้นสีฟ้า: การคาดการณ์ของสกุลเงิน USD/CNY เส้นสีแดง: USD/CNY อัตราที่เกิดขึ้นจริง
2) นักคาดการณ์ส่วนใหญ่เห็นดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 100 ในช่วงต้นปี 2017 แต่ปรับตัวลดลงกว่า 9% ตลอดทั้งปี
มีนักลงทุนกี่คนที่กล่าวว่าสกุลดอลลาร์จะลดลง ถ้าหากธนาคารกลางสหรัฐเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งบวกกับการลดขนาดงบดุล แม้นักวิเคราะห์เองก็คาดการณ์ไว้เช่นนั้น พวกเขาอาจเสียเงินเหมือนกับเหตุการณ์ที่สกุลเงินดอลลาร์ตกลงเกือบ 10% ซึ่งตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 การขึ้นราคาดังกล่าวเกิดขึ้นในปีที่การเคลื่อนตัวทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1% จาก 4.7% ในช่วงสิ้นปี 2016 และดัชนีชี้วัดด้านการผลิต ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 58.2 จาก 54.5 ในช่วงสิ้นปี 2016 นักเทรดโต้กลับการซื้อขายที่บางเบานี้ว่า "ทรัมป์เทรด" และกราฟที่ราบเรียบเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การแข็งค่าดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่การตกลงกว่า 10% ตลอดทั้งปีดูเหมือนว่าจะมีมากเกินไป
3) หลังจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษในปี 2016 แนวโน้ม GBP / USD ในปี 2017 มีท่าทีที่จะแข็งแกร่งขึ้น
มีการเทขายปอนด์สเตอร์ลิงอย่างหนักหลังจาก Brexit เกิดขึ้นในปี 2016 หลังจากนั้น GBP/USD ทิศทางที่เกิดขึ้นกลับตีกลับ แม้ว่าสกุลเงินปอนด์สเตอริงค์จะร่วงลงอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน 2016 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ในปี 2017 ปอนด์สเตอร์ลิงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและนี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น หลังจากที่การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยลง และความไม่แน่นอนในการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ จะเพิ่มความผันผวนให้กับสกุลเงินปอนด์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม GBP/USD ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 9.5% ในปี 2017 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2009 แซงหน้าหลายคู่ และเห็นได้จากการประชุมของธนาคารกลางยุโรปสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดรากี้ประธานธนาคารกลางยุโรป ประกาศในวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า เค้ามั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารกลางที่ตั้งไว้ การคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรปว่าถึงแม้จะไม่ได้เห็นว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2020 หรือไม่ เรียกได้ว่าเป็นคำกล่าวที่ตัดการเก็งกำไรในสกุลเงินยูโร
ทำไมความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับสมมติฐาน เราสรุปเหตุผลหลัก 2 ข้อมาดังนี้:
- เมื่อเกิดสมมติฐาน หมายความว่าปัจจัยหลักได้รับการประเมินค่าแล้ว และขาขึ้นหรือขาลงได้ถูกจำกัด เกิดความโลภในตลาดเงินทุน “ฉลามตัวใหญ่” มองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ที่ให้พื้นที่ที่มากขึ้นสำหรับการทำกำไร
- “การซื้อขายของคนส่วนใหญ่” เป็นตัวช่วยให้หยุดการสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น
จากปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันของดอลลาร์ เราไม่เห็นเหตุผลมากนักในการซื้อดอลลาร์ การมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปอาจบ่งบอกว่าสกุลเงินดอลลาร์ได้รับการประเมินราคาต่ำหากตลาดทั้งหมดอยู่ในช่วงขาลง
ทางเลือกของเรา
EUR/USD – ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
USD อาจพลิกกลับในสัปดาห์นี้จากค่าแรงที่เป็นไปตามที่คาดการณ์ คู่นี้อาจตกลงมาที่ 1.20.
USD/JPY – ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
คู่นี้อาจปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 113.60 หากดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ(CPI)เป็นไปตามที่คาดการณ์
XAU/USD (ทองคำ) - ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
เราคาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่ 1310 ในสัปดาห์นี้
ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ (GMT+8 time zone)
ออสเตรเลีย: ราคาขายปลีกรายเดือน วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม เวลา 08.30 น.
เราคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเข้ามาที่ 0.5% (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 0.5%).
สหรัฐอเมริกา: ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) รายปี วันศุกร์ที่ 12 มกราคม เวลา 21.30 น.
เราคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเข้ามาที่ 2.1% (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 2.2%).
ทีมวิจัยฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ต
คู่ค้าที่ทุ่มเทของคุณ
